วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 14 ส.ค. 2567
ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 14 สิงหาคม 2567 ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นจ่อระดับสูงสุดตลอดกาล โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index: CPI) ของสหรัฐฯ ประจำเดือนกรกฎาคม ซึ่งมีกำหนดเผยแพร่ในวันนี้ ซึ่งอาจจะเป็นทั้งแรงส่ง หรืออาจจะเป็นตัวกดดันราคาทองคำก็ได้
สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางหนุนราคาทอง
ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางอาจส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในระยะสั้น สำนักข่าว BBC รายงานเมื่อวันอังคารว่า สหรัฐอเมริกาได้ส่งเรือดำน้ำติดขีปนาวุธนำวิถีเข้าสู่ภูมิภาคตะวันออกกลาง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งที่อาจขยายวงกว้างขึ้นหลังจากการลอบสังหารผู้นำอาวุโสของกลุ่มเฮซบอลเลาะห์และฮามาสเมื่อเร็วๆ นี้
นักวิเคราะห์จากธนาคาร Saxo Bank A/S ระบุว่า ราคาทองคำยังคงได้รับแรงสนับสนุนจากความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์และการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างอิหร่าน อิสราเอล และยูเครน
ความคาดหวังเกี่ยวกับนโยบายการเงินของเฟด
Raphael Bostic ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขาแอตแลนตา กล่าวเมื่อวันอังคารว่า ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดทำให้เขา “มั่นใจมากขึ้น” ว่าเฟดจะสามารถควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้าหมายที่ 2% ได้ อย่างไรก็ตาม เขายังต้องการหลักฐานเพิ่มเติมก่อนที่จะพร้อมสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
รายงาน CPI ของสหรัฐฯ ที่จะเผยแพร่ในวันนี้อาจให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยคาดการณ์ว่า CPI จะเพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ซึ่งลดลง 0.1% ส่วนอัตราเงินเฟ้อ CPI รายปีคาดว่าจะชะลอตัวลงเหลือ 2.9% ในเดือนกรกฎาคม จาก 3.0% ในเดือนมิถุนายน
หากตัวเลขเงินเฟ้อออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ อาจเพิ่มโอกาสที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน ในทางกลับกัน หากตัวเลขเงินเฟ้อสูงกว่าคาดการณ์ อาจลดโอกาสในการผ่อนคลายนโยบายการเงินของเฟด ซึ่งอาจส่งผลกดดันราคาทองคำอีกระลอก
ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ชะลอตัวลง ส่งแรงถึงราคาทอง
ตลาดทองคำปรับตัวขึ้นหลังจากข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นว่าผู้ผลิตในสหรัฐฯ เผชิญกับแรงกดดันด้านราคาที่ลดลงในเดือนที่ผ่านมา กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานว่าดัชนีราคาผู้ผลิต (Producer Price Index: PPI) เพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งต่ำกว่าการเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนมิถุนายน และสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์
ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา อัตราเงินเฟ้อระดับขายส่งเพิ่มขึ้น 2.2% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 2.6% และต่ำกว่าตัวเลข 2.7% ในเดือนมิถุนายน ส่วน Core PPI ซึ่งไม่รวมต้นทุนอาหารและพลังงานที่ผันผวน อยู่ที่ 0.0% ในเดือนกรกฎาคม ดีกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 0.2% และต่ำกว่าการเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนมิถุนายน โดย Core PPI รายปีอยู่ที่ 2.4% ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 3.0% และต่ำกว่าตัวเลข 3.0% ในเดือนมิถุนายน
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นหลังจากการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่ดีกว่าคาด โดยราคาทองคำปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากการเปิดเผยข้อมูล PPI
ตัวเลข PPI ถือเป็นตัวชี้วัดเงินเฟ้อที่สำคัญ เนื่องจากผู้ผลิตจะส่งผ่านต้นทุนที่สูงขึ้นไปยังลูกค้า นักวิเคราะห์ตลาดระบุว่า การลดลงของราคาผู้ผลิตร่วมกับอัตราเงินเฟ้อ CPI ที่ดีขึ้น อาจทำให้เฟดมีความมั่นใจในการเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน ซึ่งจะสนับสนุนแนวโน้มการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในระยะยาว
ธนาคารใหญ่คาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ธนาคารขนาดใหญ่ที่สุด 5 แห่งในสหรัฐฯ เห็นพ้องกันว่าเฟดจะดำเนินการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ นักเศรษฐศาสตร์จากธนาคาร Bank of America ระบุว่า “กระแสอัตราดอกเบี้ยได้เปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็ว” และมองว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายนเป็น “สิ่งที่แทบจะเกิดขึ้นแน่นอน”
นักวิเคราะห์จากธนาคาร Wells Fargo เห็นด้วยและคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 50 basis points ในเดือนกันยายน และอีก 50 basis points ในเดือนพฤศจิกายน โดยอ้างถึงสภาวะที่เลวร้ายลงในตลาดแรงงาน พวกเขาระบุว่าแม้เฟดจะประสบความสำเร็จในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้าหมาย 2% แต่ข้อมูลล่าสุดบ่งชี้ว่าความเสี่ยงต่อส่วนหนึ่งของภารกิจคู่ของเฟดในด้าน “การจ้างงานเต็มที่” กำลังเพิ่มขึ้น และเน้นย้ำว่าการเติบโตของการจ้างงานชะลอตัวลง ในขณะที่อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น ซึ่งบ่งชี้ถึงความเปราะบางที่อาจเกิดขึ้นในตลาดแรงงาน
นักวิเคราะห์จาก JPMorgan กล่าวว่าหากเฟดรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของอัตราการว่างงานที่เผยแพร่โดยสำนักงานสถิติแรงงานเมื่อต้นเดือนสิงหาคม พวกเขาอาจได้ดำเนินการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกไปแล้ว ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นจาก 4.1% ในเดือนมิถุนายนเป็น 4.3% ในเดือนกรกฎาคม โดยจำนวนชาวอเมริกันที่ว่างงานพุ่งขนสูง 7.2 ล้านคน
Michael Feroli หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์สหรัฐฯ ของ JPMorgan กล่าวว่า หากเฟดมีรายงานการจ้างงานนี้ก่อนการประชุม FOMC เมื่อวันพุธที่ผ่านมา พวกเขาแทบจะต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอย่างน้อย 25 basis points อย่างแน่นอน เขากล่าวเสริมว่า ตอนนี้ดูเหมือนว่าเฟดจะล้าหลังจากสถานการณ์อย่างมาก เราคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 50 basis points ในการประชุมเดือนกันยายน ตามด้วยการปรับลดอีก 50 basis points ในเดือนพฤศจิกายน
นักเศรษฐศาสตร์จาก Citigroup อย่าง Veronica Clark และ Andrew Hollenhorst มองว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 100 basis points ภายในเดือนพฤศจิกายน ตามด้วยการปรับลด 25 basis points ในเดือนธันวาคม และคาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในการประชุมครั้งต่อๆ ไปจนกว่าอัตราดอกเบี้ยจะลดลงสู่ระดับ 3% ถึง 3.25% ซึ่งจะเกิดขึ้นในกลางปี 2025
ส่วนนักเศรษฐศาสตร์จาก Goldman Sachs อย่าง David Mericle และ Manuel Abecasis กล่าวว่าแม้เฟดควรหลีกเลี่ยงการตอบสนองเกินควรต่อรายงานการจ้างงานที่ไม่ดีเพียงครั้งเดียว แต่พวกเขาก็มองเห็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยหลายครั้ง ครั้งละ 25 basis points ที่กำลังจะเกิดขึ้น เนื่องจากธนาคารกลางพยายามหลีกเลี่ยงการผลักดันเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย
พวกเขาระบุว่า “มักเป็นความผิดพลาดที่จะสรุปอะไรมากเกินไปจากรายงานการจ้างงานเพียงครั้งเดียว เว้นแต่จะเกิดการช็อคครั้งใหญ่ที่เปลี่ยนแปลงภาพรวมอย่างฉับพลัน” ก่อนที่จะเพิ่มการคาดการณ์การเกิดภาวะถดถอยขึ้น 0.1 เปอร์เซ็นต์ เป็น 25% “เราได้เปลี่ยนการคาดการณ์เกี่ยวกับเฟดหลังจากรายงานการจ้างงาน โดยรวมการปรับลดอัตราดอกเบี้ยติดต่อกัน 3 ครั้ง ครั้งละ 25 basis points ในเดือนกันยายน พฤศจิกายน และธันวาคม”
วิเคราะห์กราฟทองวันนี้
ราคาทองคำยังคงมุ่งหน้าสู่การทดสอบจุดสูงสุดตลอดกาลอีกครั้ง โดยปัจจุบันเคลื่อนตัวอยู่ที่ระดับ $2,470 การเคลื่อนไหวของราคาในช่วงที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึงแรงซื้อที่หนาแน่น แม้จะมีการพักฐานบ้างในระยะสั้น
สถานการณ์ในวันนี้ยังคงคล้ายกับวันก่อนหน้า เมื่อพิจารณาจากเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ พบว่าราคาทองคำยังคงอยู่เหนือเส้น EMA ทั้งสามเส้น สะท้อนถึงแนวโน้มขาขึ้นที่ยังคงแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม ควรระมัดระวังสัญญาณ Bearish Divergence ที่เกิดขึ้นระหว่างราคาและ RSI ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงโอกาสที่ราคาอาจจะพักฐานในระยะสั้น
ระดับแนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามองคือบริเวณ $2,474 หากราคาสามารถผ่านแนวต้านนี้ไปได้ อาจมีแรงซื้อเพิ่มเติมเข้ามาหนุนราคาให้ปรับตัวขึ้นต่อ โดยเป้าหมายถัดไปอาจอยู่ที่ระดับ $2,483 ซึ่งเป็นจุดสูงสุดตลอดกาล
ในทางกลับกัน แนวรับสำคัญที่ควรติดตามอยู่ที่บริเวณ $2,461 เป็นจุดแรก ซึ่งใกล้เคียงกับแนวเส้น EMA 12 หากราคาหลุดแนวรับนี้ลงมา อาจเห็นการพักฐานลึกลงไปที่แนวรับถัดไปบริเวณ $2,452 และ $2,436 ตามลำดับ
ในระยะ 24 ชั่วโมงข้างหน้า คาดว่าราคาทองคำจะยังคงแกว่งตัวในกรอบแคบระหว่าง $2,461 - $2,474 โดยมีโอกาสที่จะทดสอบแนวต้านที่ $2,483 อีกครั้ง หากสามารถยืนเหนือระดับนี้ได้อย่างมั่นคง อาจเห็นการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ $2,500
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรระมัดระวังแรงขายทำกำไรที่อาจเกิดขึ้นในระยะสั้น โดยเฉพาะหากราคาไม่สามารถผ่านแนวต้านสำคัญได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดการพักฐานลงมาทดสอบแนวรับที่ $2,461 และ $2,452 ตามลำดับ
แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง
$2,461
$2,452
$2,436
แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง
$2,474
$2,480
$2,483
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน