วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 5 ก.ค. 2567
ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 5 กรกฏาคม 2567 ราคาทองคำยังคงน่าสนใจในช่วงเช้าวันศุกร์นี้ แม้ราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เมื่อวาน โดยราคาปรับตัวขึ้นใกล้ระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐ (USD) ยังคงอ่อนค่าลงเป็นวันที่สี่ติดต่อกันและอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบหลายสัปดาห์ ท่ามกลางความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มวงจรการลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน ซึ่งได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอลง นอกจากนี้ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงอยู่ รวมถึงความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐอเมริกาและยุโรป ยังเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการลงทุนที่มีความเสี่ยงในปัจจุบัน ซึ่งสะท้อนจากการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นทั่วโลก อาจจำกัดการปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วของทองคำ ขณะที่ตลาดรอการเปิดเผยรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm Payrolls) ของสหรัฐ ซึ่งจะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาดอลลาร์สหรัฐและอาจเป็นแรงผลักดันใหม่แก่ราคาทองคำได้
มุมมองของผู้เชี่ยวชาญต่อราคาทอง
Christopher Lewis นักวิเคราะห์ตลาดจาก FX Empire มองว่า หากราคาทองปรับตัวลดลงหลังจากรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันนี้ นักลงทุนควรถือเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ โดยเขากล่าวว่า ตลาดทองคำค่อนข้างเงียบในช่วงวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา แต่นี่ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเนื่องจากเป็นวันประกาศอิสรภาพของสหรัฐอเมริกา ดังนั้นตลาดฟิวเจอร์สจึงมีการซื้อขายจำกัด อย่างไรก็ตาม หากดูจากกราฟก็จะเห็นว่าแนวโน้มราคายังคงเป็นขาขึ้น
Lewis ยังระบุว่ามีหลายปัจจัยที่สนับสนุนราคาทอง ได้แก่ ธนาคารกลางรายใหญ่ เช่น รัสเซีย จีน และอินเดีย รวมถึงธนาคารกลางอื่น ๆ กำลังซื้อทองคำ ประเทศตะวันตก โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา กำลังกู้ยืมเงินจำนวนมหาศาล ซึ่งจะทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงในที่สุด ขณะที่มีความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์อยู่มาก และที่สำคัญตลาดทองคำยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น
Lewis คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะพุ่งขึ้นไปถึงระดับ 2,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์และอาจทะลุขึ้นไปสูงกว่านั้น โดยเขามองว่าการปรับตัวลงมาที่ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน หรือระดับ 2,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์จะเป็นจุดเข้าซื้อที่ดี
การวิเคราะห์แนวโน้มตามฤดูกาล
นักยุทธศาสตร์โลหะมีค่าจาก MKS PAMP ได้วิเคราะห์แนวโน้มตามฤดูกาลของราคาโลหะมีค่า โดยพบว่าโดยเฉลี่ยแล้ว ผลตอบแทนในครึ่งหลังของปีมักจะดีกว่าครึ่งแรกสำหรับทองคำ รวมถึงเงิน แพลทินัม พัลลาเดียม และทองแดง
โดยในครึ่งแรกของปี 2024 ราคาทองคำและเงินเป็นไปตามแนวโน้มตามฤดูกาลในอดีต โดยทองคำมีการปรับตัวขึ้นเฉลี่ย 2% ต่อเดือน และเงินปรับตัวขึ้น 3.6% ต่อเดือน ซึ่งเป็นผลมาจากการสะสมทองคำของธนาคารกลางและเอเชีย รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ สงคราม ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ และการลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์
MKS PAMP คาดการณ์ว่าราคาทองคำและเงินจะมีการปรับตัวขึ้นที่ดีในครึ่งหลังของปี โดยตั้งแต่ปี 2010 ทองคำมีการปรับตัวขึ้นสะสม 1.4% และเงินปรับตัวขึ้น 2.2% ในช่วงครึ่งหลังของปี นอกจากนี้ พวกเขายังคาดว่าโลหะมีค่าทั้งหมดจะมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในช่วงปลายฤดูร้อนตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคมจนถึงวันแรงงาน โดยเงินอาจปรับตัวขึ้น 7.7% และทองคำอาจปรับตัวขึ้น 4.4%
ผลกระทบจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ
ทางด้านนักวิเคราะห์โลหะมีค่าจาก Heraeus มองว่าโอกาสที่ Donald Trump จะชนะการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายนอาจผลักดันให้นักลงทุนทั่วโลกหันมาลงทุนในทองคำ โดยทั้งราคาทองคำและเงินอาจได้รับประโยชน์จากนโยบายภาษีและข้อพิพาททางการค้า
Heraeus ชี้ให้เห็นว่านโยบายเศรษฐกิจในสมัยที่สองของ Trump อาจนำไปสู่ความตกใจในตลาด ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ และเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการทำสงครามการค้ากับจีนอีกครั้ง ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อทั้งเศรษฐกิจสหรัฐและเศรษฐกิจโลก
นอกจากนี้ ยังมีความกังวลว่า Trump อาจบั่นทอนความเป็นอิสระของธนาคารกลางสหรัฐ ซึ่งอาจนำไปสู่นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น ทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงและเพิ่มความต้องการทองคำของนักลงทุน
แนวโน้มอุปสงค์ทองคำในอินเดีย
ทางด้านฝั่งของอินเดียก็ยังคงเห็นอุปสงค์ทองคำที่แข็งแกร่ง โดยการนำเข้าทองคำในเดือนพฤษภาคมอยู่ที่ประมาณ 44.5 ตัน ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ย แม้ว่าจะต่ำกว่าปีที่แล้วเล็กน้อยก็ตาม การนำเข้าทองคำในระดับสูงช่วงกลางปีซึ่งมักถูกแปลงเป็นการผลิตเครื่องประดับที่แข็งแกร่งสำหรับเทศกาลในไตรมาสสุดท้ายของปี
อินเดียมีอุปสงค์เครื่องประดับทองคำ 95.5 ตันในไตรมาสแรกของปี 2024 เพิ่มขึ้น 4% จากปีก่อน ซึ่งคิดเป็นเพียงครึ่งหนึ่งของการบริโภคของจีนที่ 184.2 ตันในช่วงเดียวกัน (ลดลง 6% เมื่อเทียบกับปีก่อน) การบริโภคเครื่องประดับของอินเดียคิดเป็น 20% ของยอดรวมทั่วโลก และเป็นตลาดผู้บริโภคที่ใหญ่เป็นอันดับสองสำหรับทองคำ อุปสงค์ที่แข็งแกร่งตั้งแต่ต้นปีช่วยชดเชยการลดลงของอุปสงค์เครื่องประดับในจีนได้บางส่วน
ทั้งนี้ นักลงทุนควรติดตามปัจจัยต่างๆ อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในวันนี้ ซึ่งจะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์ และสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งล้วนมีผลต่อทิศทางราคาทองคำในระยะสั้นถึงระยะกลาง
วิเคราะห์กราฟทองวันนี้
วิเคราะห์กราฟทองคำประจำวัน ราคาทองคำ Gold Spot เทียบกับดอลลาร์สหรัฐ (XAU/USD) ในกรอบเวลา 4 ชั่วโมง
ราคาทองคำยังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง โดยล่าสุดราคายังคงยืนเหนือแนวรับสำคัญที่ $2,355 และกำลังทดสอบแนวต้านถัดไปที่ $2,364 - $2,368 ซึ่งเป็นระดับที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด
ขณะที่ปัจจุบันราคาทองคำเคลื่อนตัวอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ทั้ง EMA 12, 26 และ 200 ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มขาขึ้นที่ยังคงแข็งแกร่งในทุกกรอบเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ EMA 12 ตัดขึ้นเหนือ EMA 26 ในระดับกราฟรายวันเมื่อไม่นานมานี้ ถือเป็นสัญญาณยืนยันการเริ่มต้นของแนวโน้มขาขึ้นระยะกลาง
รูปแบบแท่งเทียนล่าสุดเป็นแท่งสีเขียว แสดงถึงแรงซื้อที่ยังคงมีอยู่ อย่างไรก็ตาม ไส้เทียนด้านบนที่ค่อนข้างยาวอาจบ่งชี้ถึงแรงขายที่เริ่มปรากฏ ณ ระดับราคาสูง ๆ หากแท่งเทียนถัดไปเป็นแท่งสีแดงที่ปิดต่ำกว่าจุดกึ่งกลางของแท่งปัจจุบัน อาจเป็นสัญญาณของการพักฐานระยะสั้น
โดยหากราคาสามารถยืนเหนือแนวต้าน $2,364 ได้อย่างมั่นคง เป้าหมายถัดไปจะอยู่ที่ $2,368 และ $2,376 ตามลำดับ ในทางกลับกัน หากเกิดแรงขายทำกำไร แนวรับสำคัญจะอยู่ที่ $2,355 และ $2,345
สำหรับแนวโน้มใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า คาดว่าราคาทองคำจะยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้น แต่อาจมีการพักฐานระยะสั้นเพื่อสร้างฐานราคาใหม่ก่อนปรับตัวขึ้นต่อ นักลงทุนควรติดตามการทดสอบแนวต้านที่ $2,364 อย่างใกล้ชิด หากราคาไม่สามารถผ่านไปได้ อาจเกิดการอ่อนตัวลงเพื่อทดสอบแนวรับที่ $2,355 ในระยะสั้น
แม้แนวโน้มหลักยังเป็นขาขึ้น แต่นักลงทุนควรระมัดระวังแรงขายทำกำไรที่อาจเกิดขึ้นได้ในระยะสั้น และติดตามระดับแนวรับแนวต้านสำคัญอย่างใกล้ชิดเพื่อปรับกลยุทธ์การลงทุนให้เหมาะสมกับสถานการณ์เศรษฐกิจที่จะออกมาในวันนี้ ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว
แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง
2,355 ดอลลาร์
2,345 ดอลลาร์
2,333 ดอลลาร์
แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง
2,364 ดอลลาร์
2,368 ดอลลาร์
2,376 ดอลลาร์
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน