วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 5 ก.พ. 2568

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >     

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 ตลาดทองคำโลกปรับตัวพุ่งแรงทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ระดับ 2,849 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ในช่วงการซื้อขายของเช้าวันนี้ สืบเนื่องจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ปรับตัวลดลง โดยสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนได้กระตุ้นให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยงและหันมาถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ส่งผลให้ราคาทองคำ (XAU/USD) พุ่งขึ้น

แม้ว่าประธานาธิบดี Donald Trump จะประกาศเลื่อนการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโกและแคนาดาออกไป แต่การเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในอัตรา 10% ได้มีผลบังคับใช้แล้ว ซึ่งจีนได้ตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เช่นกัน โดยครอบคลุมสินค้าหลายรายการ อาทิ ถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) น้ำมันดิบ อุปกรณ์การเกษตร และรถบรรทุกไฟฟ้า นอกจากนี้ จีนยังประกาศควบคุมการส่งออกโลหะบางชนิดที่มีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์

ขณะที่ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ทวีความรุนแรงขึ้นส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ร่วงลง 0.43% ต่ำกว่าระดับ 108.00 จุด อย่างไรก็ตาม Mary Daly ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขาซานฟรานซิสโก กล่าวว่า ภารกิจในการควบคุมเงินเฟ้อของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ยังไม่สิ้นสุด พร้อมระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังอยู่ในสถานะที่ดีและธนาคารกลางอยู่ในตำแหน่งที่แข็งแกร่งพอที่จะรอดูและประเมินผลกระทบจากมาตรการภาษี

ตลาดแรงงานสหรัฐชะลอตัวหนุนราคาทองพุ่งต่อเนื่อง

รายงาน Job Openings and Labor Turnover Survey (JOLTS) จากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เผยว่า ตำแหน่งงานว่างในเดือนธันวาคมลดลงมาอยู่ที่ 7.60 ล้านตำแหน่ง จากระดับ 8.16 ล้านตำแหน่งในเดือนพฤศจิกายน ต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าจะทรงตัว Greg Michalowski นักวิเคราะห์สกุลเงินและผู้อำนวยการฝ่ายการศึกษาลูกค้าที่ ForexLive ระบุว่า จำนวนตำแหน่งงานว่างลดลงมาอยู่ที่ 7.443 ล้านตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2024 และระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2021

ราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากกระแสเงินทุนที่ไหลเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัยอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ต้นปี ทั้งนี้ ราคาทองคำก็มีความผันผวนสูงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากได้รับผลกระทบจากท่าทีที่เข้มงวดขึ้นของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการดำเนินนโยบายการเงิน และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมืองระหว่างประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น

นักวิเคราะห์บางรายมองว่า ข้อมูล JOLTS อาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก เนื่องจากรายงานแสดงให้เห็นถึงการชะลอตัวของตลาดแรงงาน ซึ่งอาจบีบให้ธนาคารกลางต้องคงนโยบายผ่อนคลายการเงินต่อไป แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ในระดับสูงก็ตาม โดยนักวิเคราะห์บางรายระบุว่า ทองคำมีแนวโน้มที่จะปรับตัวดีขึ้นในสภาวะที่การเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัวและอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง

ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์หนุนราคาทองทะลุ 2,800 ดอลลาร์

Joy Yang หัวหน้าฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์ดัชนีระดับโลกที่ MarketVector ระบุว่า แม้ราคาทองคำจะพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดเหนือระดับ 2,800 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แต่ยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อไปได้อีก เนื่องจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ยังคงดำเนินต่อไป

Yang อธิบายว่า การเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยของทองคำนั้นไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ความขัดแย้งทางการค้าเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความไม่แน่นอนในภาคเทคโนโลยี หลังจากที่จีนเปิดตัว AI ที่มีราคาถูกกว่า นอกจากนี้ การที่มูลค่าหุ้นอยู่ใกล้ระดับสูงสุดตามประวัติการณ์ทำให้นักลงทุนระมัดระวังมากขึ้น จึงไม่น่าแปลกใจที่จะมีความต้องการสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงอย่างทองคำเพิ่มขึ้น

ทองคำถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่สมบูรณ์แบบเนื่องจากมีอุปสงค์ที่แข็งแกร่งจากธนาคารกลางทั่วโลก โดย Yang คาดว่าธนาคารกลางต่างๆ จะยังคงเพิ่มการถือครองทองคำต่อไป แม้ว่าความต้องการจากนักลงทุนและการเก็งกำไรอาจสร้างความผันผวนในตลาดทองคำ แต่แนวโน้มในระยะยาวยังคงเป็นขาขึ้น

กระแสทองคำไหลเข้าสหรัฐฯ ท่ามกลางส่วนต่างราคาพุ่งสูง

หลังจากมีรายงานว่าทองคำในลอนดอนถูกถอนออกและเคลื่อนย้ายไปยังสหรัฐอเมริกาเป็นเวลาหลายสัปดาห์ รายงานใหม่ระบุว่าการเคลื่อนย้ายทองคำแท่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนี้อาจเป็นปรากฏการณ์ทั่วโลก โดยธนาคารที่ค้าทองคำระดับโลกกำลังขนส่งทองคำทางอากาศไปยังสหรัฐฯ จากศูนย์กลางการค้าที่ให้บริการผู้บริโภคในเอเชีย รวมถึงดูไบและฮ่องกง เพื่อใช้ประโยชน์จากส่วนต่างราคาที่สูงผิดปกติระหว่างราคาสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าในสหรัฐฯ กับราคาทองคำสปอต

ความกังวลเกี่ยวกับภาษีนำเข้าที่สหรัฐฯ วางแผนจะใช้ได้ผลักดันให้ราคาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาด COMEX สูงกว่าราคาสปอตอย่างมีนัยสำคัญในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา สร้างโอกาสในการทำกำไรจากส่วนต่างราคา โดยปริมาณทองคำในคลังสินค้า COMEX เพิ่มขึ้นเกือบ 80% หรือ 13.8 ล้านทรอยออนซ์นับตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน คิดเป็นมูลค่ากว่า 38 พันล้านดอลลาร์สหรัฐที่ราคาปัจจุบัน โดยทองคำไหลเข้ามาจากลอนดอน สวิตเซอร์แลนด์ และศูนย์กลางการค้าทองคำในเอเชีย

สมาคมตลาดแท่งทองคำลอนดอน (LBMA) ประกาศว่ากำลังประสานงานกับ CME Group และหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ เพื่อแก้ไขปัญหาส่วนต่างราคาที่สูงระหว่างทองคำในตลาด COMEX กับราคาตลาดลอนดอน ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเป็นครั้งคราวในตลาดทั่วโลก ทาง LBMA ยืนยันว่าสต็อกทองคำกายภาพและสภาพคล่องของตลาดลอนดอนยังคงแข็งแกร่ง

Ross Norman ซีอีโอของ Metals Daily มองว่าความตื่นตระหนกในตลาดทองคำครั้งล่าสุดนี้เป็นเรื่องที่เกินจริง โดยชี้แจงว่าปริมาณทองคำ 435 ตันที่เคลื่อนย้ายจากลอนดอนผ่านสวิตเซอร์แลนด์ไปยังคลังสินค้าในนิวยอร์กในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา มูลค่าประมาณ 82 พันล้านดอลลาร์สหรัฐนั้น เทียบเท่ากับปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยเพียงสองวันในตลาดทองคำลอนดอน

Norman อธิบายว่าปริมาณดังกล่าวไม่ได้บ่งชี้ถึงภาวะขาดแคลน เนื่องจากลอนดอนมีทองคำสำรองอยู่ประมาณ 8,710 ตันตามสถิติล่าสุดของ LBMA แม้ว่าน้อยกว่าครึ่งหนึ่งจะเป็นของธนาคารกลางอื่นๆ แต่ส่วนใหญ่ก็พร้อมใช้งานได้ นอกจากนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพียงปัญหาด้านการขนส่งมากกว่าการเปลี่ยนแปลงพื้นฐานของความต้องการในตลาด

Norman คาดการณ์ว่าทองคำแท่งเหล่านี้อาจถูกขนส่งกลับไปยังลอนดอน (ผ่านโรงกลั่นในสวิตเซอร์แลนด์เพื่อแปรรูปกลับเป็นแท่งมาตรฐาน 400 ออนซ์) ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นในช่วงการระบาดของโควิด-19

ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่าตลาดทองคำโลกกำลังเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจ โดยราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไป ตราบใดที่ปัจจัยพื้นฐานยังคงสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นความต้องการจากธนาคารกลาง ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ หรือการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ

💸 ห้ามพลาด!!! 💸

แจกโบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์! 🎁🎁🎁

ค่าคอมฯ 0 สเปรดต่ำ! เงินฝากขั้นต่ำ $50 🤑

ฝึกเทรดด้วยเงินเสมือนจริง $50, 000 ฟรี 💰

เทรดเดี๋ยวนี้

การลงทุนมีความเสี่ยง อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน

จากการวิเคราะห์กราฟราคาทองคำรายชั่วโมงล่าสุด พบว่าราคากำลังแสดงสัญญาณแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง โดยราคาปัจจุบันอยู่ที่ 2,840 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เคลื่อนตัวอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ทั้ง EMA 12, EMA 26 และ EMA 200 อย่างชัดเจน

ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ราคาทองคำสร้างจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง ด้วยแท่งเทียนสีเขียวขนาดใหญ่ แสดงถึงแรงซื้อที่หนาแน่นและความมั่นใจของผู้ซื้อในตลาด การเรียงตัวของเส้น EMA ทั้งสามเส้นยืนยันแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง

ขณะที่ดัชนี RSI บ่งชี้ว่าราคาทองคำเริ่มเข้าสู่ภาวะ Overbought ที่ระดับเหนือ 70 แต่ยังไม่พบสัญญาณ Bearish Divergence ที่ชัดเจน ขณะที่ Stochastic RSI แสดงการแกว่งตัวในโซนบน สอดคล้องกับแนวโน้มขาขึ้นของราคา

แนวรับสำคัญอยู่ที่บริเวณ 2,824 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับ EMA 12 และเป็นฐานของการปรับตัวขึ้นครั้งล่าสุด ถัดลงมาที่ 2,808 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับ EMA 26 และ 2,800 - 2,790 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับจิตวิทยา และเป็นแนวรับก่อนหน้านี้

แนวต้านถัดไปหลังจากทำจุดสูงสุดต้องบอกว่าต้องค่อยๆ ดูทีละช่วงราคา โดยน่าจะอยู่ที่ 2,850 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดล่าสุด และ 2,860 ดอลลาร์ เป็นแนวต้านถัดไป หากผ่านได้มีโอกาสไปทดสอบ 2,880 ดอลลาร์

คาดการณ์ว่าใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า ราคาทองคำมีโอกาสแกว่งตัวขึ้นต่อเนื่องในกรอบ 2,800-2,850 ดอลลาร์ โดยยังรักษาแนวโน้มขาขึ้นไว้ได้ตราบใดที่ราคายังยืนเหนือแนวรับ 2,800 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรระมัดระวังการปรับฐานระยะสั้นเนื่องจากราคาเริ่มอยู่ในภาวะ Overbought ควรติดตามสัญญาณการกลับตัวของ RSI และรูปแบบแท่งเทียนที่บ่งชี้การอ่อนตัวของแรงซื้อเพิ่มเติม

แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $2,824

• $2,808

• $2,790

แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $2,850

• $2,860

• $2,880