วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 19 มี.ค. 2568

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >     

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 19 มีนาคม 2568 ราคาทองคำ XAU/USD พุ่งทะยานทำลายสถิติใหม่ที่ 3,038 ดอลลาร์เมื่อวันอังคาร ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับนโยบายภาษีตอบโต้ของประธานาธิบดี Donald Trump ที่จะมีผลบังคับใช้วันที่ 2 เมษายนนี้ แม้จะมีการพูดคุยระหว่าง Trump กับ Putin ที่ยอมหยุดโจมตีสาธารณูปโภคด้านพลังงานของยูเครนเป็นเวลา 30 วัน แต่ราคาทองยังคงพุ่งต่อเนื่อง ทำกำไรให้นักลงทุนแล้วกว่า 15% ตั้งแต่ต้นปี โดยราคาเคลื่อนไหวอยู่ที่บริเวณ 3,028 ดอลลาร์ในเช้าวันนี้

สถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางระหว่างอิสราเอลและฮามาสเป็นอีกปัจจัยที่หนุนราคา หลังการโจมตีของอิสราเอลทำให้มีผู้เสียชีวิตในกาซ่ามากกว่า 400 คน ขณะที่นักลงทุนยังจับตาการตัดสินใจของ Fed ในค่ำคืนวันนี้ ซึ่งคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่เดิม แต่มีโอกาสถึง 66% ที่จะปรับลดดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน

ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐและค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลง ยิ่งเป็นปัจจัยหนุนให้ทองคำทะยานขึ้น โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีลดลง 1 เบสิสพอยต์ มาอยู่ที่ 4.183% ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ (DXY) ลดลง 0.17% มาอยู่ที่ 103.23 ทำให้ทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทนมีความน่าสนใจมากขึ้น

ตลาดที่อยู่อาศัยสหรัฐฟื้นตัว แต่ทองยังพุ่งไม่หยุด

แม้จะมีสัญญาณการฟื้นตัวในภาคที่อยู่อาศัยสหรัฐ แต่ราคาทองยังคงพุ่งไม่หยุด การเริ่มสร้างที่อยู่อาศัยพุ่งขึ้นกว่า 11% ในเดือนที่แล้ว มาอยู่ที่ 1.50 ล้านหน่วยต่อปี เหนือความคาดหมายของนักเศรษฐศาสตร์ที่ 1.38 ล้านหน่วย โดยเฉพาะการสร้างบ้านเดี่ยวที่เพิ่มขึ้น 11.4% เป็น 1,108,000 หน่วย

อย่างไรก็ตาม ใบอนุญาตก่อสร้างสำหรับโครงการในอนาคตกลับลดลง 1.2% มาอยู่ที่ 1.46 ล้านหน่วย ซึ่งแสดงให้เห็นว่านักลงทุนยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับแนวโน้มในอนาคต ขณะที่นักวิเคราะห์บางรายเตือนว่าราคาไม้ที่สูงขึ้นจากสงครามการค้าอาจกดดันการก่อสร้างในปีนี้ ทั้งนี้ ภาคที่อยู่อาศัยชะลอตัวมาตลอดปี 2024 เนื่องจากผู้บริโภคถูกกดดันจากอัตราดอกเบี้ยจำนองและราคาบ้านที่สูงขึ้น

นักวิเคราะห์เศรษฐกิจหลายรายมองว่าภาคที่อยู่อาศัยของสหรัฐอาจมีบทบาทสำคัญในการกำหนดว่าเศรษฐกิจจะหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยได้หรือไม่ เพราะเป็นภาคส่วนที่ส่งผลกระทบต่อการจ้างงานและการบริโภคอย่างมาก ตัวเลขที่ดีขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์อาจเป็นสัญญาณบวก แต่ทั้งนี้ ความไม่แน่นอนจากนโยบายของ Trump ยังคงเป็นเงาที่ปกคลุมตลาดทั่วโลก

ทองคำยังแกร่ง ผู้เชี่ยวชาญคาดแตะ 3,300 ดอลลาร์ในปี 2025

Ole Hansen หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ของ Saxo Bank มองว่าราคาทองอาจมีการพักตัวชั่วคราว ทดสอบแนวรับที่ 2,956 หรือแม้แต่ 2,930 ดอลลาร์ เมื่อนักลงทุนเริ่มทำกำไรที่ระดับจิตวิทยาสำคัญ แต่เขามองว่านี่เป็นโอกาสซื้อ และยืนยันเป้าหมายราคาทองปี 2025 ที่ 3,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์

Hansen ระบุว่าทองคำพุ่งขึ้น 39% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา และ 15% นับตั้งแต่ต้นปี 2025 โดยมีปัจจัยหนุนหลักๆ คือความต้องการทองคำจากธนาคารกลางที่แข็งแกร่ง อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกที่ลดลง และความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ ขณะที่ Trump ได้พลิกโฉมระเบียบโลก เพิ่มความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและความวุ่นวายทางภูมิรัฐศาสตร์

ตลาดหุ้นที่ปรับตัวลดลง ทำให้นักลงทุนทั้งจากต่างประเทศและในสหรัฐหันมาหาทางเลือกอื่น ขณะที่ความเสี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยพร้อมเงินเฟ้อ (stagflation) เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจบังคับให้ Fed ต้องผ่อนคลายนโยบายการเงิน ตลาดคาดการณ์ว่าจะมีการลดดอกเบี้ย 0.25% ถึงสามครั้งภายในสิ้นปีนี้

Hansen ยังชี้ให้เห็นว่าความต้องการลงทุนในทองคำจากโลกตะวันตกเพิ่มขึ้น ขณะที่สงครามการค้าและภาษีนำเข้าสินค้าของ Trump กดดันตลาดหุ้น ในขณะที่ราคาทองเพิ่มขึ้น 15% ในปีนี้ ดัชนี S&P 500 กลับลดลงเกือบ 4%

นักวิเคราะห์เตือน หากเศรษฐกิจถดถอย ทองอาจร่วงได้

ด้าน Chantelle Schieven หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ Capitalight Research ยังคงคาดการณ์ราคาทองที่ระดับสูงสุด 3,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในปีนี้ แต่ก็เตือนว่าเป็นเรื่องยากที่จะทำนายว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะส่งผลต่อทองคำอย่างไร เนื่องจากในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ นักลงทุนมักขายทองเพื่อระดมทุนและชดเชยการขาดทุนในตลาดหุ้น

มีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมากก่อนที่ Trump จะได้รับเลือกตั้ง และตั้งแต่เขาเข้ามา เราจะเห็นเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงเพราะไม่มีใครสามารถตัดสินใจทางธุรกิจในระยะยาวได้ ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป น่าเสียดายสำหรับทองคำ มันมักไม่แสดงผลงานที่ดีในช่วงเริ่มต้นของภาวะถดถอย

Schieven คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะยังคงดิ้นรนต่อไปเนื่องจากนโยบาย America First ของ Trump รวมถึงภาษีนำเข้าสินค้า ซึ่งได้จุดชนวนสงครามการค้าทั่วโลก

ความไม่แน่นอนในยุโรปกระตุ้นแรงซื้อทองคำ

Schieven ยังชี้ให้เห็นว่าทองคำอาจเผชิญความท้าทายระยะสั้นเนื่องจากนโยบายแยกตัวของ Trump ทำให้ยุโรปต้องเพิ่มการใช้จ่าย เงินทุนลงทุนจำนวนมากไหลเข้าสู่ยุโรปในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากสหภาพยุโรปประกาศว่าจะให้ประเทศสมาชิกเข้าถึงเงินทุนประมาณ 1 ล้านล้านดอลลาร์เพื่อเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหมและโครงสร้างพื้นฐาน

เมื่อวันอังคาร รัฐสภาเยอรมนีลงมติเห็นชอบการใช้จ่ายเงิน 500 พันล้านยูโร ซึ่งเป็นระดับการใช้จ่ายที่ไม่เคยมีมาก่อน เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับกองทัพและปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน 

ปัจจัยเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อความต้องการทองคำในระยะสั้น แต่ในระยะยาว Schieven เชื่อว่าจะยิ่งตอกย้ำบทบาทของทองคำในฐานะสินทรัพย์ทางการเงินที่สำคัญ

ยิ่งสหรัฐสร้างความไม่แน่นอนมากเท่าไร อำนาจของดอลลาร์สหรัฐในฐานะสกุลเงินสำรองของโลกก็จะยิ่งลดลงเท่านั้น ทองคำจะมีบทบาทสำคัญในโลกที่ไม่มีสกุลเงินสำรองเด่นชัด โดย Schieven คาดว่าธนาคารกลางจะยังคงซื้อทองคำและกระจายความเสี่ยงออกจากดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะสร้างระดับราคาพื้นฐานที่แข็งแกร่งในตลาด

เราเห็นการปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง โดยราคาปัจจุบันอยู่ที่ $3,028 สะท้อนให้เห็นว่าทองคำยังคงมีแรงซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยราคาได้ทะลุแนวต้านที่ $3,019 (แนวเส้น 141.40% Fibonacci) ตามที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ และกำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้แนวต้านถัดไปที่ $3,037 (แนวเส้น 161.80% Fibonacci)

ภาพรวมทางเทคนิคยังคงเป็นบวกอย่างชัดเจน โดยราคาเคลื่อนตัวอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ทั้งหมด ทั้ง EMA 12 (เส้นสีแดง) และ EMA 26 (เส้นสีฟ้า) มีความชันเพิ่มขึ้นและมีการเรียงตัวในลักษณะตลาดขาขึ้นที่สมบูรณ์ ระยะห่างระหว่างเส้น EMA กับราคาปัจจุบันที่ค่อนข้างมากบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของแนวโน้มขาขึ้น แม้จะมีความเสี่ยงจากการเกิดภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) ในระยะสั้น

ดัชนี RSI ยังคงเคลื่อนไหวในเขต Overbought ที่ระดับเหนือ 70 แต่ยังไม่แสดงสัญญาณ Bearish Divergence ที่ชัดเจน ขณะที่ Stochastic RSI มีการฟื้นตัวขึ้นอีกครั้งหลังจากการปรับตัวลงเล็กน้อย สะท้อนถึงแรงซื้อที่ยังคงเข้ามาหนุนราคา

แนวต้านสำคัญในระยะสั้นอยู่ที่ $3,037 (แนวเส้น 161.80% Fibonacci) และหากผ่านไปได้ ก็ยังไม่มีแนวต้านที่ชัดเจน จนกว่าจะถึงบริเวณ $3,136 ซึ่งเป็นแนวเส้น 261.80% Fibonacci อย่างไรก็ตาม เนื่องจากราคาปรับตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง โอกาสที่จะเกิดการพักฐานในระยะสั้นมีความเป็นไปได้สูง โดยแนวรับสำคัญอยู่ที่ $3,019, $3,004 และ $2,976 ตามลำดับ

รูปแบบแท่งเทียนล่าสุดแสดงการทรงตัวหลังจากการปรับตัวขึ้นแรง บ่งชี้ว่านักลงทุนกำลังประเมินสถานการณ์ที่ระดับราคาปัจจุบัน ซึ่งการทรงตัวนี้อาจเป็นการสะสมกำลังซื้อก่อนการปรับตัวขึ้นครั้งใหม่ หรืออาจเป็นสัญญาณของการอ่อนตัวชั่วคราวก่อนการพักฐาน

ในระยะ 24 ชั่วโมงข้างหน้า คาดว่าราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบ $3,004-$3,037 โดยหากสามารถยืนเหนือ $3,037 ได้อย่างมั่นคง อาจมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ ในทางกลับกัน หากมีแรงขายทำกำไรออกมา ราคาอาจปรับตัวลงทดสอบแนวรับที่ $3,004 ซึ่งเป็นระดับที่มีความสำคัญทั้งในเชิงเทคนิคและจิตวิทยา

แนวโน้มหลักยังคงเป็นขาขึ้นอย่างชัดเจน นักลงทุนควรพิจารณาการเข้าซื้อเมื่อราคาปรับตัวลงมาที่แนวรับสำคัญ พร้อมกับจับตาปริมาณการซื้อขายและพฤติกรรมราคาบริเวณแนวต้านสำคัญที่ $3,037 เพื่อประเมินความเป็นไปได้ของการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องหรือการเกิดการพักฐานในระยะสั้น

แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $3,019

• $3,004

• $2,975

แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $3,037

• $3,050

• $3,060