วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 11 มิ.ย. 2567
ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 11 มิถุนายน 2567 ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยกลับขึ้นมายืนเหนือระดับ 2,300 ดอลลาร์อีกครั้ง ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น แม้ว่าทองคำจะซื้อขายสูงกว่าระดับต่ำสุดของสัปดาห์ที่แล้วที่ 2,288 ดอลลาร์ แต่ก็ยังต้องเฝ้าระวังท่ามกลางแรงซื้อดอลลาร์สหรัฐฯ ก่อนการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ
รายงาน Nonfarm Payrolls ของสหรัฐฯ เดือนพฤษภาคมของสัปดาห์ที่แล้วแสดงให้เห็นว่าตลาดแรงงานยังคงมีความยืดหยุ่น แม้ว่ารายงานก่อนหน้านี้จะแสดงให้เห็นว่ากำลังชะลอตัว อย่างไรก็ตาม มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 272,000 ตำแหน่ง ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 185,000 ตำแหน่ง ในรายงานฉบับเดียวกัน อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น ในขณะที่ค่าจ้างรายชั่วโมงเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
จากข้อมูลดังกล่าว รายงานเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้จะเป็นเรื่องสำคัญ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ในระดับเดิม ซึ่งอาจยืนยันจุดยืนของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ “สูงเป็นระยะเวลานานขึ้น” ในทางกลับกัน การเร่งตัวใหม่อาจทำให้เจ้าหน้าที่เฟดปรับเปลี่ยนจุดยืน ซึ่งอาจเป็นการปูทางให้ทองคำที่ไม่ให้ผลตอบแทนปรับตัวลดลงต่อไป
ในสัปดาห์นี้ หลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ แล้ว เฟดจะประกาศมติด้านนโยบายการเงินและบทสรุปของการคาดการณ์เศรษฐกิจ การปรับเปลี่ยนแนวโน้มในทิศทางที่เข้มงวดขึ้นในข้อความหรือ dot plot ซึ่งอาจกระตุ้นความผันผวนให้กับตลาด
ปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาทองมีการเคลื่อนไหวล่าสุด
นักวิเคราะห์จาก Heraeus ระบุว่าราคาทองคำเผชิญกับปัจจัยต้านในระยะใกล้จากนโยบายอัตราดอกเบี้ยที่เข้มงวดของเฟด
นักวิเคราะห์ชี้ว่าราคาทองได้แรงหนุนจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของประเทศ G7 สองแห่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่การเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงช่วงสั้นๆ
ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% เหลือ 3.75% ในวันที่ 6 มิถุนายน ถือเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 5 ปี แม้จะมีตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงกว่าคาดในเดือนพฤษภาคม การเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นตามหลังการลดอัตราดอกเบี้ยในลักษณะเดียวกันโดยธนาคารแคนาดา ซึ่งลดดอกเบี้ยลง 0.25% เพียงหนึ่งวันก่อนหน้า การลดลงเหล่านี้สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงลำดับความสำคัญของธนาคารกลางไปที่การสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจมากกว่าการปราบปรามเงินเฟ้อ
ดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นอย่างมาก ทำให้ราคาทองอ่อนตัวลง นักวิเคราะห์คาดการณ์กันว่าค่าเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าลงเมื่อเฟดเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยด้วย โดยทั่วไปแล้วการอ่อนค่าของดอลลาร์มักส่งผลดีต่อราคาทองคำ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการคาดการณ์ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินของสหรัฐฯ ในการประชุมเฟดสัปดาห์นี้ ขณะที่ยังไม่มีการกำหนดเวลาที่เฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ย แต่ตลาดปัจจุบันคาดการณ์ว่ามีโอกาสสูงที่จะมีการปรับลดในเดือนกันยายน
ข่าวใหญ่ของตลาดทองคำเมื่อวันศุกร์คือประกาศของจีนว่าธนาคารกลางหยุดซื้อทองคำในเดือนพฤษภาคมหลังจากที่มีการซื้อสุทธิติดต่อกัน 18 เดือน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความรู้สึกที่มีต่อทองคำ
ในระยะยาว แนวโน้มของทองคำมีแนวโน้มสูงขึ้น แต่ราคาก็ยังคงต้องดิ้นรนให้ยืนเหนือระดับ 2,300 ดอลลาร์ให้ได้ก่อนในช่วงนี้ โดยนักวิเคราะห์มองว่าหากระดับ 2,280 ไม่สามารถยันราคาเอาไว้ได้ ก็มีโอกาสที่ราคาจะไหลลงไปสู่ระดับ 2,200 ดอลลาร์ได้
ความไม่ไว้วางใจดอลลาร์สหรัฐกำลังผลักดันราคาทองคำ
ธนาคารระหว่างประเทศ BNP Paribas Asset Management ระบุว่า ความไม่ไว้วางใจดอลลาร์สหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ทองคำสามารถยืนอยู่เหนือระดับแนวรับที่สำคัญได้
Fabien Benchetrit หัวหน้าฝ่ายจัดสรรเป้าหมายของ BNP Paribas คาดว่าทองคำจะยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อไปเมื่อนักลงทุนให้ความสำคัญกับมูลค่าปลอดภัยของทองคำมากกว่าต้นทุนค่าเสียโอกาสการถือครองทองคำ
เขากล่าวว่าตั้งแต่วิกฤติ COVID แรงผลักดันของโลกาภิวัตน์ดูเหมือนจะลดลง และมีความเคลื่อนไหวใหม่เกิดขึ้นซึ่งเกี่ยวข้องกับการลดการใช้ดอลลาร์ การลดระดับโลกาภิวัตน์ และความตึงเครียดระหว่างประเทศ ทำให้แนวโน้มใหม่นี้เป็นประโยชน์ต่อโลหะมีค่า เนื่องจากมีคุณสมบัติในการป้องกันความเสี่ยงจากการสูญเสียอำนาจซื้อในดอลลาร์สหรัฐฯ และจากปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์
ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับท่าทีด้านนโยบายการเงินของเฟดได้สร้างความผันผวนอย่างมากในตลาดทองคำเมื่อวันศุกร์ โดยราคาทองร่วงลงมากที่สุดในรอบ 2 ปี ส่วนหนึ่งเป็นเพราะข้อมูลการจ้างงานที่ดีกว่าคาด ทำให้ตลาดมองการลดดอกเบี้ยในเดือนก.ย. คลาดเคลื่อนออกไป แต่แม้ว่าราคาทองจะปรับตัวลงราว 3% ก่อนสุดสัปดาห์ แต่ตลาดก็ยังสามารถรักษาแนวรับสำคัญเหนือระดับ 2,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไว้ได้
Benchetrit ตั้งข้อสังเกตว่าความยืดหยุ่นของราคาทองเป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มที่กว้างขึ้น แม้จะลดลงจากระดับสูงสุดล่าสุด แต่ตลาดก็ปรับตัวขึ้นเกือบ 28% จากจุดต่ำสุดเดือนตุลาคม และเพิ่มขึ้นกว่า 12% นับตั้งแต่ต้นปี
เขาระบุว่าเป็นผลงานที่ดีสำหรับสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทน ดูเหมือนจะไม่สำคัญว่าอัตราดอกเบี้ยจริงจะเพิ่มขึ้นหรือดอลลาร์สหรัฐฯ จะแข็งค่าขึ้น แต่โลหะมีค่าก็ยังแข็งแกร่ง
Benchetrit เสริมว่านอกจากธนาคารกลางจะซื้อทองคำเพื่อกระจายการลงทุนให้ห่างจากดอลลาร์สหรัฐฯ แล้ว ยังมีการย้ายทองคำกลับมาไว้ภายในประเทศของตนเองด้วย โดยไนจีเรีย แอฟริกาใต้ และซาอุดิอาระเบีย เป็นธนาคารกลางที่เขาระบุว่ามีการนำทองคำสำรองกลับคืนมาจากธนาคารกลางนิวยอร์ก
นอกจากนี้ จีนยังไม่สะสมทุนสำรองดอลลาร์สหรัฐฯ อีกต่อไป และค่อยๆ ขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ถืออยู่ออกไปด้วย
Benchetrit ยังกล่าวอีกว่าบราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นสมาชิกหลักของกลุ่ม BRICS และสมาชิกใหม่อย่างอิหร่าน อียิปต์ เอธิโอเปีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อาจเป็นตัวเร่งใหม่สำหรับราคาทองคำที่สูงขึ้น
ถ้าหากประเทศเหล่านี้เน้นข้อตกลงทวิภาคีในสกุลเงินท้องถิ่นเป็นทางเลือกแทนดอลลาร์ สกุลเงินร่วมกันที่ผูกกับตะกร้าสินทรัพย์ซึ่งรวมถึงสินค้าโภคภัณฑ์ก็อาจเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากประเทศเหล่านี้เป็นผู้ผลิตไฮโดรคาร์บอนหลัก
ในรายงานของ Benchetrit ยังคาดการณ์ด้วยว่าธนาคารกลางจะซื้อทองคำต่อไปตลอดปี 2024 ซึ่งมีการระบุไว้ก่อนที่จีนจะสร้างความตื่นตระหนกให้กับตลาดทองคำหลังมีข้อมูลแสดงให้เห็นว่าจีนไม่ได้ซื้อทองคำในเดือนพฤษภาคม ซึ่งยุติการซื้อต่อเนื่องยาวนานถึง 18 เดือน
มุ่งเน้นไปที่บทบาทความปลอดภัยของทองคำ
Benchetrit คาดหวังให้นักลงทุนรายย่อยให้ความสนใจกับบทบาทของทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น แต่ก็ต้องระวังปัจจัยต้านจากผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้นและค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งแกร่งกว่า
ทั้งนักลงทุนรายบุคคลและสถาบัน (ผู้จัดการสินทรัพย์ ธนาคารเอกชน) ดูเหมือนจะลงทุนต่ำเกินไป เพราะแม้ว่าราคาทองจะสูง แต่ปริมาณ futures ก็ยังต่ำกว่าจุดสูงสุดในอดีต เช่นเดียวกับสินทรัพย์ของกองทุน ETF ทองคำที่ใหญ่ที่สุด สถานการณ์นี้บ่งชี้ว่าการเพิ่มขึ้นของทองคำยังไม่สิ้นสุด
วิเคราะห์กราฟทองวันนี้
วิเคราะห์กราฟทองคำประจำวัน ราคาทองคำ Gold Spot เทียบกับดอลลาร์สหรัฐ (XAU/USD) ในกรอบเวลา 4 ชั่วโมง ณ ราคาปัจจุบันที่ $2,308 ถึงแม้ราคาจะมีการปรับตัวกลับขึ้นมาเหนือ $2,300 อีกครั้ง แต่สิ่งที่น่ากังวลกว่าคือในภาพกราฟรายวัน แสดงให้เห็นถึงการตัดกันลงของเส้นค่าเฉลี่ย EMA 12 และ 26 ซึ่งเป็นสัญญาณของการปรับตัวลงที่ชัดเจน
อีกหนึ่งสิ่งที่แสดงถึงสัญญาณของการปรับตัวลงของราคาในกราฟระดับวัน คือรูปแบบของ Head and Shoulder ซึ่งยิ่งต้องเฝ้าระวังแนวรับบริเวณ $2,270 ซึ่งถ้าราคาหลุดบริเวณดังกล่าวลงมา จะยิ่งเผชิญกับแรงขายเข้ามาเสริม และถึงแม้ราคา RSI ในกราฟระดับ 4 ชั่วโมง จะยังคงสัญญาณของ Bullish Drivergence แต่แนวโน้มในภาพรวมยังคงอยู่ในขาลง
แนวรับสำคัญในวันนี้จะเริ่มต้นที่บริเวณ $2,300 - $2,293 ซึ่งเป็นแนวจิตวิทยา และถัดไปคือจุดสำคัญบริเวณ $2,273 ซึ่งหากราคาหลุดแนวรับนี้ลงมา ราคาสามารถลงไปถึงระดับ $2,250 - $2,200 ได้
ในด้านของแนวต้านจะอยู่ที่ $2,311 ซึ่งเป็นแนวเส้นค่าเฉลี่ย EMA 12 ในระดับ 4 ชั่วโมง และถัดไปบริเวณ $2,325 ซึ่งเป็นศูนย์รวมของแนวต้านทางเทคนิคอีกหลายตัว
สรุปแนวโน้มโดยรวมใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า แม้ราคาทองคำมีโอกาสแกว่งตัวขึ้นทดสอบแนวต้านด้วยแรงหนุนจากสัญญาณระยะสั้น อย่างไรก็ตาม ในภาพรวม ราคาได้กลับมาอยู่ในแนวโน้มขาลงที่ชัดเจนอีกครั้ง ดังนั้นจึงควรติดตามสัญญาณยืนยันจากการปิดราคาเหนือแนวต้าน หากผ่านไม่ได้ ราคาจะกลับมาอยู่ต่ำกว่า $2,300 อีกครั้ง โดยหากราคาร่วงหลุดแนวรับ $2,273 ลงมา อาจเป็นสัญญาณของแนวโน้มขาลงที่รุนแรงมากขึ้น
แนวรับ ในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ $2,300 - $2,293 / $2,273
แนวต้าน ในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ $2,311 - $2,325
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน