วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 12 ก.พ. 2568

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >     

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 ราคาทองคำ XAU/USD พุ่งทะยานทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ระดับ 2,942 ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนที่จะปรับตัวลดลง 0.18% ในวันที่ผ่านมา ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้น หลังจากประธานาธิบดี Donald Trump ประกาศมาตรการภาษีใหม่ ส่งผลให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยงและหันมาถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

บรรยากาศการซื้อขายในตลาดการเงินยังคงอยู่ในภาวะตึงเครียดหลังจาก Trump ตัดสินใจเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมในอัตรา 25% สำหรับสินค้าที่นำเข้าสู่สหรัฐอเมริกา มาตรการดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศและการเติบโตของเศรษฐกิจโลก ในช่วงแรกราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นตามแรงซื้อเก็งกำไร อย่างไรก็ตาม นักลงทุนเริ่มทยอยขายทำกำไรก่อนการแถลงการณ์ของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) Jerome Powell ต่อวุฒิสภา เนื่องจากต้องการรอดูท่าทีและมุมมองของ Fed ต่อสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน

ประธาน Fed มั่นใจเศรษฐกิจแกร่ง ปัดลดดอกเบี้ย ไร้สัญญาณถดถอย

ในการแถลงต่อวุฒิสภา Jerome Powell ส่งสัญญาณชัดเจนว่า Fed ยังไม่มีแผนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่งและอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่เหนือเป้าหมายที่ 2% โดย Powell ได้อธิบายถึงสภาวะตลาดแรงงานว่าอยู่ใน “ภาวะสมดุลโดยรวม” และไม่ได้เป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อแต่อย่างใด นอกจากนี้ เมื่อถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะถดถอย Powell ได้ปฏิเสธข้อกังวลดังกล่าวอย่างชัดเจน

ในส่วนของข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุด ดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจขนาดเล็ก NFIB (NFIB Small Business Optimism Index) ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 102.8 ในเดือนมกราคม จากระดับ 105.1 ในเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2018 สะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็กเริ่มมีมุมมองที่ระมัดระวังมากขึ้นต่อภาวะเศรษฐกิจ

Powell เผชิญศึกหนักในสภา หลีกเลี่ยงวิจารณ์นโยบาย Trump แต่ยืนหยัดจุดยืน Fed

การปรากฏตัวต่อหน้าคณะกรรมาธิการวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรในสัปดาห์นี้ นับเป็นความท้าทายสำหรับ Jerome Powell ที่ต้องใช้ทักษะในการหลีกเลี่ยงการถูกซักถามเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดี Trump โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นเรื่องการขึ้นภาษีนำเข้า ซึ่งแตกต่างจากการแถลงข่าวที่ Fed ที่เขาสามารถเลือกตอบคำถามจากนักข่าวได้ตามดุลยพินิจ

Senator Chris Van Hollen พยายามถามความเห็นของ Powell เกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการขึ้นภาษี โดยตั้งคำถามว่า “การขึ้นภาษีนำเข้าในอัตราที่สูงและการเพิ่มขึ้นของการขาดดุลและหนี้สาธารณะจะสร้างแรงกดดันต่อเงินเฟ้อหรือไม่ และนี่เป็นเพียงการคำนวณทางคณิตศาสตร์อย่างง่ายใช่หรือไม่?”

อย่างไรก็ตาม Powell ตอบอย่างระมัดระวังว่ายังไม่สามารถคาดการณ์ได้เนื่องจากยังไม่ทราบรายละเอียดที่แน่ชัดของนโยบายที่จะถูกนำมาใช้จริง เขาเน้นย้ำว่าการตัดสินใจด้านนโยบายการเงินของ Fed ต้องพิจารณาปัจจัยหลายด้านประกอบกัน ทั้งนโยบายภาษี การเข้าเมือง นโยบายการคลัง และนโยบายด้านกฎระเบียบต่างๆ

เมื่อ Senator John Warner สอบถามถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นหากรัฐบาลสหรัฐฯ เลือกที่จะไม่ยอมรับหนี้พันธบัตรรัฐบาลบางส่วน หลังจากที่ประธานาธิบดี Trump กล่าวถึงการตรวจสอบการจ่ายหนี้พันธบัตรรัฐบาลเพื่อหาการทุจริตที่อาจเกิดขึ้น Powell ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นต่อคำพูดของประธานาธิบดี โดยระบุว่าขอให้วุฒิสภาเป็นผู้พิจารณาประเด็นดังกล่าว

Powell ปิดประตู CBDC แต่เปิดทางพัฒนา Stablecoin ภายใต้กรอบกฎหมายที่เหมาะสม

ในประเด็นสกุลเงินดิจิทัล Powell ให้คำมั่นอย่างชัดเจนต่อ Senator Bernie Moreno ว่าตราบใดที่เขายังดำรงตำแหน่งประธาน Fed จะไม่มีการออกสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม Powell แสดงท่าทีสนับสนุนการพัฒนากรอบกฎหมายสำหรับ Stablecoin โดยระบุว่า Stablecoin อาจมีอนาคตที่สดใสในการใช้งานทั้งสำหรับผู้บริโภคและภาคธุรกิจ แม้ว่าในขณะนี้ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้อย่างชัดเจน แต่สิ่งสำคัญคือต้องมีการพัฒนา Stablecoin ภายใต้กรอบการกำกับดูแลที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคและผู้ออม โดย Fed พร้อมให้ความร่วมมือและข้อเสนอแนะทางเทคนิคในการพัฒนากรอบกฎหมายดังกล่าว

จีนปฏิวัติตลาดทองคำโลก เปิดทางบริษัทประกันลงทุนครั้งแรกในประวัติศาสตร์

อย่างไรก็ตาม ตลาดทองคำโลกได้รับแรงหนุนครั้งสำคัญหลังจากจีนประกาศเปิดตัวโครงการนำร่องที่อนุญาตให้บริษัทประกันสามารถลงทุนในทองคำเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยอนุญาตให้บริษัทประกัน 10 แห่ง รวมถึงยักษ์ใหญ่อย่าง ICC Property & Casualty Co. และ China Life Insurance Co. สามารถลงทุนในทองคำได้สูงสุด 1% ของสินทรัพย์

นักวิเคราะห์จาก Minsheng Securities Co. คาดการณ์ว่าบริษัทประกันอาจลงทุนในทองคำสูงถึง 27.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาทองคำในระยะยาว โดย Dr. Zenghui รองประธาน Shanghai Gold Exchange เปิดเผยในงานประชุม London Bullion Market Association's 2024 Precious Metals Conference ว่า บริษัทประกันแสดงความสนใจอย่างมากในการลงทุนทองคำ

Dr. Zenghui ยังเน้นย้ำว่าโครงการนำร่องนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของพัฒนาการในตลาดทองคำของจีน ซึ่งกำลังเปลี่ยนแปลงจากการเป็นตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยผู้บริโภคไปสู่การเป็นสินทรัพย์ทางการเงินระดับโลกมากขึ้น และความต้องการลงทุนใหม่นี้จะยิ่งเสริมสร้างอิทธิพลของจีนในตลาดทองคำโลก อีกทั้งยังสอดคล้องกับการเติบโตอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจจีน ซึ่งตลาดทุนที่มีข้อจำกัดในปัจจุบันมีทางเลือกในการลงทุนระยะยาวไม่มากนัก

Jesse Colombo ผู้ก่อตั้ง BubbleBubble Report วิเคราะห์ว่านี่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของตลาดทองคำจีน เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่จีนอนุญาตให้กองทุนประกันลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์อย่างชัดเจน โดยในอดีตจีนมีข้อจำกัดไม่ให้กองทุนประกันถือครองสินทรัพย์ที่ไม่มี “ผลตอบแทนเงินสดที่มั่นคง” พร้อมทั้งกำหนดเพดานการลงทุนในหุ้นและพันธบัตร การเปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่จะเปิดทางให้สถาบันการเงินเข้ามามีส่วนร่วมในตลาดทองคำมากขึ้น ซึ่งจะยิ่งเพิ่มแรงส่งให้กับการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ

Nicky Shiels หัวหน้าฝ่ายวิจัยและกลยุทธ์โลหะที่ MKS PAMP ประเมินว่าโครงการนำร่องนี้อาจดึงทองคำไปประมาณ 7 ล้านออนซ์ แม้จะไม่ใช่ปริมาณมหาศาล แต่ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยเธอชี้ว่าความต้องการนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาด OTC (Over-the-Counter) โดยตรง เนื่องจากบริษัทประกันจะซื้อทองคำผ่าน SGE อย่างไรก็ตาม แม้ว่าความต้องการนี้จะสอดคล้องกับกระแสการไหลเข้าของกองทุน Exchange-Traded Funds (ETFs) ในภาพรวม แต่ก็จะช่วยสนับสนุนการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลก

สำหรับปฏิทินเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เหลือในสัปดาห์นี้ จะมีการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่สำคัญทั้งในส่วนของดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index: CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (Producer Price Index: PPI) รวมถึงจะมีการกล่าวสุนทรพจน์ของเจ้าหน้าที่ Fed อีกหลายท่าน ซึ่งนักลงทุนจะติดตามอย่างใกล้ชิดเพื่อประเมินแนวโน้มนโยบายการเงินในระยะถัดไป

💸 ห้ามพลาด!!! 💸

แจกโบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์! 🎁🎁🎁

ค่าคอมฯ 0 สเปรดต่ำ! เงินฝากขั้นต่ำ $50 🤑

ฝึกเทรดด้วยเงินเสมือนจริง $50, 000 ฟรี 💰

เทรดเดี๋ยวนี้

การลงทุนมีความเสี่ยง อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน

ราคาทองคำได้ปรับตัวลงมาจากจุดสูงสุดที่ 2,943 ดอลลาร์มาอยู่ที่ระดับ 2,893 ดอลลาร์ในปัจจุบัน และกำลังทดสอบแนวรับสำคัญ

ในด้านการวิเคราะห์ทางเทคนิค ราคายังคงเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง EMA 12 และ 26 (สีแดงและสีฟ้า) ซึ่งยังคงบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม ความห่างระหว่างราคากับเส้น EMA เริ่มแคบลง แสดงถึงการชะลอตัวของโมเมนตัมการขึ้น

RSI ได้ปรับตัวลงมาจากเขต Overbought อย่างรวดเร็ว สะท้อนถึงแรงขายที่เพิ่มขึ้นในระยะสั้น ขณะที่ Stochastic RSI แสดงการไขว้ลง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงการปรับฐานในระยะสั้น

แนวรับสำคัญในขณะนี้อยู่ที่เส้น EMA ระยะสั้น บริเวณ 2,880-2,870 ดอลลาร์ หากราคาสามารถยืนเหนือระดับนี้ได้ จะเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง ส่วนแนวต้านจะอยู่ที่บริเวณตั้งแต่ 2,900 ดอลลาร์ เป็นต้นไป

สำหรับมุมมองทางเทคนิคเพิ่มเติม เราสังเกตเห็นการสร้างรูปแบบ Price Channel ที่มีความชันขึ้น ซึ่งเป็นรูปแบบที่บ่งชี้ถึงแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ ปริมาณการซื้อขาย (Volume) ในช่วงที่ราคาปรับตัวลงค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับช่วงที่ราคาปรับตัวขึ้น แสดงว่าแรงขายที่เข้ามายังไม่รุนแรงมากนัก

กลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ควรให้ความสำคัญกับการรอจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาใกล้แนวรับสำคัญ โดยเฉพาะบริเวณ 2,880-2,870 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดที่มีโอกาสเห็นแรงซื้อกลับเข้ามา

แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $2,870

• $2,850

• $2,830

แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $2,906

• $2,920

• $2,940