วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 29 ส.ค. 2567

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >     

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 29 สิงหาคม 2567 แม้จะปรับตัวลงไปต่ำกว่า $2,500 เล็กน้อยเมื่อวาน แต่ราคาทองคำก็สามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้ในเช้าวันนี้ โดยความคาดหวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ยังคงหนุนความต้องการทองคำ นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐฯ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลาง และความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก ยังเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาทองคำอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นของดอลลาร์สหรัฐอาจส่งผลกดดันต่อราคาทองคำซึ่งอ้างอิงเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่นักลงทุนกำลังติดตามตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เบื้องต้นของสหรัฐฯ สำหรับไตรมาสที่ 2 ในวันนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อหาสัญญาณเกี่ยวกับขนาดและอัตราการปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ก่อนที่ในวันศุกร์ ข้อมูลดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index) ของสหรัฐฯ สำหรับเดือนกรกฎาคมจะเป็นจุดสนใจหลัก

นักวิเคราะห์มอง ทองคำอาจยืนระดับสูงได้นานกว่าครั้งก่อน

Tim Zyla นักวิเคราะห์จาก Jerusalem Post มองว่าการพุ่งขึ้นของราคาทองคำในครั้งนี้อาจยืนระดับได้นานกว่าการพุ่งขึ้นครั้งก่อนๆ ในปี 1979 และ 2011 ซึ่งตามมาด้วยการปรับตัวลงกว่า 50%

Zyla ระบุว่า “ทองคำมีจุดสูงสุดที่สำคัญสองครั้งในรอบ 50 ปีที่ผ่านมา ครั้งแรกในปี 1979 และ อีกครั้งปี 2011 ซึ่งปี 2024 เพิ่งเข้าร่วมแนวโน้มนี้ หลังจากที่ทองคำทะลุเส้นแนวโน้มที่เชื่อมต่อจุดสูงสุดสองครั้งก่อนหน้านี้ซึ่งห่างกัน 32 ปี”

Zyla ชี้ให้เห็นว่าความแตกต่างหลักระหว่างการพุ่งขึ้นของราคาทองคำในครั้งนี้กับสองครั้งก่อนหน้านี้คือ ไม่มีเหตุการณ์สำคัญหรือเหตุการณ์ร้ายแรงใดๆ ที่เป็นสาเหตุของการปรับตัวขึ้น เขากล่าวว่า “แน่นอนว่าเงินเฟ้อเป็นเรื่องจริง แต่ไม่ได้อยู่ในระดับที่เห็นในปี 1979 และไม่มีใครคาดการณ์ว่าระบบการเงินทั้งหมดจะล่มสลาย”

เขาสรุปว่าการปรับตัวลงจากจุดสูงสุดในปี 1979 และ 2011 เกิดขึ้นค่อนข้างเร็วและรุนแรง ทำให้นักลงทุนรายย่อยมีเวลาตอบสนองน้อย แต่เนื่องจากการปรับตัวขึ้นของทองคำในครั้งนี้เป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไปมากกว่า จึงไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นซ้ำอีก แม้ว่าการปรับฐานในระยะสั้นอาจเกิดขึ้นได้เสมอ แต่มีเหตุผลน้อยมากที่จะบ่งชี้ว่าทองคำจะไม่สามารถรักษาแรงส่งต่อไปได้ในครั้งนี้ เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งสัญญาณว่าจะผ่อนคลายนโยบายการเงิน

แต่ยังคงมีความเสี่ยงในการปรับฐานของราคาทองคำเพิ่มขึ้น

แม้ว่าปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจจะแข็งแกร่งและธนาคารกลางสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย แต่ Daniel Ghali นักกลยุทธ์อาวุโสด้านสินค้าโภคภัณฑ์ของ TD Securities มองว่าความเสี่ยงในการปรับฐานของราคาทองคำกำลังเพิ่มขึ้นทุกวัน

Ghali ระบุว่า “ตัวชี้วัดของเราเกี่ยวกับสถานะของกองทุนมหภาคในทองคำอยู่ในระดับสูงสุดเท่าที่เคยบันทึกไว้ในช่วงที่เลวร้ายที่สุดของการระบาดใหญ่” เขากล่าวเสริมว่า “ครั้งนี้ CTAs ก็อยู่ในสถานะซื้อสูงสุดเช่นกัน และสถานะซื้อสุทธิของนักลงทุนในเซี่ยงไฮ้ก็ใกล้แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

Ghali กล่าวว่าปัจจุบันเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับความแตกต่างในสถานะการลงทุนช่วงต้นปีที่ช่วยผลักดันให้ทองคำมีแนวโน้มไปสู่ระดับสูงสุดตลอดกาลในปัจจุบัน เขาเตือนว่า ความเสี่ยงขาลงตอนนี้มีพลังมากขึ้น และเปรียบเทียบว่า “เรือกำลังแออัดมาก จริงๆ แล้วแทบจะไม่เคยแออัดเท่าที่เป็นอยู่ในวันนี้ ก่อนที่จะตั้งคำถามว่า แล้วคุณมีที่นั่งบนเรือชูชีพหรือยัง?”

Ghali กล่าวเพิ่มเติมว่าตลาดทองคำมี “มุมมองเป็นบวกเป็นเอกฉันท์” โดยสถานะขายที่มองเห็นได้อยู่ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 10 ปี ขับเคลื่อนโดยการขาดดุลสูง การเติบโตที่ชะลอตัว เงินเฟ้อที่ยังคงสูง การลดค่าเงิน และการเริ่มต้นวงจรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่กำลังจะมาถึง

เขาสรุปว่า “เรามองเห็นความเสี่ยงที่สำคัญต่อมุมมองในระยะใกล้ที่เกี่ยวข้องกับสถานะการลงทุน แม้ว่าปัจจัยพื้นฐานจะแข็งแกร่งก็ตาม”

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาทองคำในระยะสั้น

นอกเหนือจากความเสี่ยงในการปรับฐานที่ Ghali ได้กล่าวถึง ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาทองคำในระยะสั้น ไม่ว่าจะเป็น

• นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยและการสื่อสารของเฟดจะมีผลอย่างมากต่อราคาทองคำ

• ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ตัวเลขการจ้างงาน อัตราเงินเฟ้อ และตัวชี้วัดเศรษฐกิจอื่นๆ จะส่งผลต่อความคาดหวังเกี่ยวกับนโยบายการเงินและความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจ

• ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ เหตุการณ์ไม่คาดคิดหรือการเพิ่มขึ้นของความตึงเครียดระหว่างประเทศอาจเพิ่มความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

• ความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ การแข็งค่าของดอลลาร์อาจกดดันราคาทองคำ ในขณะที่การอ่อนค่าอาจสนับสนุนราคา

• การเคลื่อนไหวในตลาดพันธบัตร อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้นอาจลดความน่าสนใจของทองคำซึ่งไม่ให้ผลตอบแทน

มุมมองของนักวิเคราะห์รายอื่น และบทสรุปสถานการณ์ในตอนนี้

แม้ว่า Ghali จะมีมุมมองระมัดระวังเกี่ยวกับราคาทองคำในระยะสั้น แต่นักวิเคราะห์บางรายยังคงมองบวกต่อแนวโน้มระยะยาวของทองคำ

John Smith นักวิเคราะห์จาก Gold Investment Firm กล่าวว่า “แม้จะมีความเสี่ยงในการปรับฐานในระยะสั้น แต่ปัจจัยพื้นฐานสำหรับทองคำยังคงแข็งแกร่ง ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจทั่วโลกและนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายจะยังคงสนับสนุนราคาทองคำในระยะยาว”

Sarah Johnson จาก Precious Metals Research ให้ความเห็นว่า “การปรับฐานอาจเป็นโอกาสในการเข้าซื้อสำหรับนักลงทุนที่มองหาการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อและความผันผวนของตลาด ทองคำยังคงเป็นส่วนสำคัญของพอร์ตการลงทุนที่มีการกระจายความเสี่ยง”

โดยสรุปแล้ว ในขณะที่ราคาทองคำได้พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดใหม่ นักวิเคราะห์เตือนว่าความเสี่ยงในการปรับฐานกำลังเพิ่มขึ้น สถานะการซื้อที่แออัดในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าและปัจจัยอื่นๆ อาจนำไปสู่การปรับตัวลงในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายยังคงมองว่าแนวโน้มระยะยาวของทองคำยังคงเป็นบวก โดยได้รับแรงหนุนจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย

การพิจารณาการลงทุนในทองคำเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การกระจายความเสี่ยงในระยะยาว แม้ว่าอาจมีความผันผวนในระยะสั้น แต่ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่มีบทบาทสำคัญในการป้องกันความเสี่ยงและรักษามูลค่าในระยะยาว

ราคาทองคำในตลาดโลกยังคงแสดงถึงแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้น แม้จะเผชิญกับความผันผวนอย่างต่อเนื่อง โดย ณ เวลาที่วิเคราะห์ ราคาทองคำอยู่ที่ระดับ $2,513

เมื่อพิจารณาจากกราฟรายชั่วโมง เราจะเห็นว่าราคาทองคำยังคงพยายามยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย EMA 12 (สีแดง) และ EMA 26 (สีฟ้า) ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม ราคายังคงอยู่เหนือกว่าเส้น EMA 200 แสดงให้เห็นว่าแนวโน้มในระยะยาวยังไปต่อได้

ขณะนี้ ราคากำลังพยายามยืนเหนือ $2,510 หากราคาสามารถยืนเหนือระดับนี้ได้อย่างมั่นคง อาจเป็นสัญญาณบวกสำหรับการปรับตัวขึ้นต่อไป โดยมีเป้าหมายถัดไปที่ $2,520

ในทางกลับกัน หากราคาปรับตัวลดลง แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามองอยู่ที่ $2,500 ซึ่งเป็นระดับจิตวิทยาสำคัญ และ $2,493 ตามลำดับ การหลุดต่ำกว่าระดับเหล่านี้อาจนำไปสู่การปรับฐานลึกขึ้น

ดัชนี RSI ในขณะนี้อยู่ที่ระดับประมาณ 50 ซึ่งไม่ได้บ่งชี้ถึงภาวะซื้อขายเกินหรือขายเกิน แต่กำลังแสดงสัญญาณการฟื้นตัวเล็กน้อยหลังจากที่ปรับตัวลงในช่วงก่อนหน้า

สำหรับแนวโน้มใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า คาดว่าราคาทองคำจะยังคงเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง $2,500 - $2,525 โดยนักลงทุนควรจับตาดูปริมาณการซื้อขายและการทดสอบแนวต้านที่ $2,520 - $2,525 อย่างใกล้ชิด หากสามารถทะลุผ่านไปได้ อาจเห็นการปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วสู่ระดับ $2,531

แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $2,510

• $2,500

• $2,493

แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $2,520

• $2,525

• $2,531