วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 17 มี.ค. 2568

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >     

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 17 มีนาคม 2568 ราคาทองคำ XAU/USD ทำสถิติสูงสุดตลอดกาลที่ 3,005 ดอลลาร์ และยังคงแสดงแนวโน้มความแข็งแกร่ง โดยเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 2,985 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงเช้าวันจันทร์ตามเวลาเอเชีย นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ราคาทองทะลุหลัก 3,000 ดอลลาร์ ความแข็งแกร่งของราคาทองได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจจากผลกระทบของสงครามการค้าระดับโลก

นักลงทุนกำลังจับตามองตัวเลขยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ ประจำเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งมีกำหนดเผยแพร่ในวันจันทร์นี้ ขณะที่สงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศคู่ค้าหลักสร้างความกังวลให้กับตลาดการเงินและเศรษฐกิจทั่วโลก Donald Trump ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขู่เก็บภาษีนำเข้าไวน์ คอนยัค และแอลกอฮอล์จากยุโรปในอัตรา 200% เพื่อตอบโต้แผนการเก็บภาษีวิสกี้อเมริกันของสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นปฏิกิริยาตอบสนองต่อการที่ Trump เก็บภาษีเหล็กและอลูมิเนียมนำเข้า 25%

ทองยังมีโอกาสทะยานต่อ นักวิเคราะห์ชี้มีแรงซื้ออีกมาก

แม้ราคาทองจะปรับตัวลงเล็กน้อยจากจุดสูงสุดในช่วงวันศุกร์ แต่นักวิเคราะห์หลายรายเชื่อว่ายังมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นได้อีกในระยะสั้น Jesse Colombo นักวิเคราะห์โลหะมีค่าอิสระมองว่านี่เป็นเพียงการหยุดพักชั่วคราวที่ระดับแนวต้านสำคัญและจิตวิทยา แนวโน้มขณะนี้ยังคงเป็นขาขึ้นอย่างชัดเจน และคาดว่าจะมีความพยายามเจาะระดับ 3,000 ดอลลาร์อีกครั้ง ในสัปดาห์นี้

นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์จาก TD Securities ระบุว่าการที่ทองคำทดสอบระดับ 3,000 ดอลลาร์จะถือเป็นตลาดกระทิงที่สำคัญที่สุดอันดับสามในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ พวกเขาเสริมว่าแม้ความเสี่ยงในตลาดจะเพิ่มขึ้น แต่การปรับตัวขึ้นยังไม่จบ “กองทุนขนาดใหญ่ยังมีช่องให้เพิ่มการซื้อได้อีก แต่กระเป๋าของพวกเขาก็มีจำกัด อย่างไรก็ตาม ปัจจัยโดยรวมยังเอื้อให้สถานการณ์มหภาคในภาพใหญ่ยังคงอยู่”

James Stanley นักยุทธศาสตร์ตลาดอาวุโสจาก Forex.com กล่าวว่าเป็นเรื่องยากที่จะคาดการณ์ว่าราคาจะขึ้นไปได้ไกลแค่ไหนก่อนที่จะเกิดการทำกำไรจนนำไปสู่การขายครั้งใหญ่ อย่างไรก็ตาม เขาสังเกตว่าแม้ที่ระดับ 3,000 ดอลลาร์ ตัวชี้วัดโมเมนตัมก็ยังไม่สูงเกินไปเมื่อเทียบกับการทะลุแนวต้านครั้งก่อนๆ การที่ราคาทองเคลื่อนไหวในกรอบแคบช่วงเดือนสุดท้ายของปี 2024 ช่วยป้องกันไม่ให้ตลาดร้อนแรงเกินไป

เงินไหลออกจากตลาดหุ้นเข้าสู่ทองคำ หนุนราคาพุ่งต่อเนื่อง

ขณะที่ทองคำซื้อขายใกล้ระดับสูงสุดตลอดกาล ตลาดหุ้นกลับปรับตัวลง ดัชนี S&P 500 ปิดสัปดาห์ด้วยการลดลง 2.4% โดยดัชนีลดลงมากกว่า 5% ในปีนี้ ขณะที่ราคาทองเพิ่มขึ้นเกือบ 13% Colombo ระบุว่าตลาดหุ้นที่อ่อนแอลงอาจยังคงสนับสนุนการปรับตัวขึ้นของทองคำได้ต่อไป

“การเคลื่อนย้ายเงินทุนจากตลาดหุ้นมาสู่ทองคำเพิ่งเริ่มต้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งจะเป็นเชื้อเพลิงให้กับตลาดกระทิงของทองคำในอีกหลายปีข้างหน้า” นักวิเคราะห์หลายรายยังพบว่ากองทุน ETF ที่อิงกับทองคำเริ่มเห็นกระแสเงินไหลเข้าอย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่าระดับจะยังคงต่ำกว่าจุดสูงสุดที่ตั้งไว้ในปี 2020

Alex Tsepaev หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ของ B2PRIME Group กล่าวว่าบทบาททางประวัติศาสตร์ของทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยทำให้เป็นสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่ดำเนินอยู่ เขายังเสริมว่าอุปสงค์จากสถาบัน รวมถึงกระแสเงินไหลเข้ากองทุน ETF และการซื้อจากธนาคารกลางที่ทำสถิติสูงสุด ยิ่งสนับสนุนโมเมนตัมราคาทองคำ โดยการทะลุระดับ 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ซึ่งมีนัยสำคัญทางจิตวิทยา อาจเปิดทางไปสู่ระดับ 3,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์

การประชุม Fed สัปดาห์นี้อาจหนุนราคาทองพุ่งอีกระลอก

นักวิเคราะห์บางรายกล่าวว่าทองคำอาจเห็นการปรับตัวขึ้นอีกครั้งหากตลาดได้รับความเห็นเชิงผ่อนคลายจากธนาคารกลางสหรัฐหลังการประชุมนโยบายการเงินในสัปดาห์นี้ ธนาคารกลางสหรัฐมีท่าทีเป็นกลางตั้งแต่ต้นปี แต่นักเศรษฐศาสตร์บางรายกล่าวว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่แย่ลงและความกลัวเรื่องภาวะถดถอยอาจทำให้ธนาคารกลางมีท่าทีผ่อนคลายมากขึ้น ปัจจุบันตลาดคาดการณ์ว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อยสองครั้งในปีนี้

Ricardo Evangelista นักวิเคราะห์อาวุโสจาก ActivTrades กล่าวว่าท่าทีที่แข็งกร้าวเรื่องภาษีของ Donald Trump กำลังส่งผลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ ทำให้การคาดการณ์การเติบโตลดลงและกดดันสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้น โดยดัชนีหลักปรับตัวลง หลังจากเพิ่มขึ้นช่วงการเลือกตั้ง ในขณะเดียวกัน ข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่อ่อนตัวลงมากกว่าคาดซึ่งเผยแพร่เมื่อต้นสัปดาห์ก่อน บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของการเติบโตสำหรับเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเพิ่มความคาดหวังเรื่องการลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมจากเฟด ด้วยความอยากเสี่ยงที่ลดลงและการคลายตัวของการเทรด ทองคำอาจมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้อีก

เขายังเสริมว่าการประชุม FOMC ในสัปดาห์นี้จะเป็นกุญแจสำคัญในการกำหนดความคาดหวังสำหรับนโยบายของเฟด นี่น่าจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญสำหรับทองคำ เนื่องจากมีความสัมพันธ์โดยตรงกับดอลลาร์สหรัฐ

ในสัปดาห์นี้ นักลงทุนควรจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ เริ่มตั้งแต่ วันจันทร์ จะมียอดค้าปลีกสหรัฐฯ และดัชนี Empire State Manufacturing Index

วันอังคาร การเริ่มสร้างบ้านและใบอนุญาตก่อสร้างของสหรัฐฯ พร้อมการตัดสินใจนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น

วันพุธ การตัดสินใจนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ และการตัดสินใจนโยบายการเงินของธนาคารแห่งชาติสวิส ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ การสำรวจภาคการผลิต Philly Fed และยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี

ราคาทองคำในปัจจุบันกำลังเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 2,992 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งอยู่ในโซนแนวต้านสำคัญหลังจากที่ราคาได้พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงที่ผ่านมา โดยราคาแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มขาขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ราคาได้ทะลุผ่านแนวต้านหลายระดับในช่วงวันที่ 11-13 มีนาคมที่ผ่านมา

เมื่อพิจารณาจากเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ จะเห็นว่าราคาอยู่เหนือเส้น EMA 12 (เส้นสีแดง) และ EMA 26 (เส้นสีฟ้า) อย่างชัดเจน โดยทั้งสองเส้นกำลังชี้ขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งเป็นสัญญาณของแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้นถึงระยะกลาง นอกจากนี้ราคายังอยู่เหนือเส้น EMA 200 (เส้นสีส้ม) ที่กำลังชี้ขึ้นเช่นกัน บ่งชี้ว่าแนวโน้มหลักยังคงเป็นขาขึ้น ความสัมพันธ์ของเส้นค่าเฉลี่ยทั้งสามเส้นแสดงให้เห็นถึงโครงสร้างตลาดที่แข็งแกร่ง โดย EMA 12 อยู่เหนือ EMA 26 และทั้งคู่อยู่เหนือ EMA 200 ซึ่งเป็นการเรียงตัวที่สมบูรณ์แบบสำหรับตลาดขาขึ้น

ในส่วนของค่า RSI อยู่ที่ระดับ 72 ซึ่งเข้าสู่เขต Overbought แล้ว นี่เป็นสัญญาณเตือนสำคัญ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของการเกิด Bearish Divergence ในระยะสั้น ดังนั้น แม้ว่าแนวโน้มหลักยังคงเป็นขาขึ้น แต่นักลงทุนควรเพิ่มความระมัดระวังและเตรียมรับมือกับความเป็นไปได้ที่ราคาอาจมีการปรับตัวลงชั่วคราว

ระดับแนวรับสำคัญที่ควรจับตามองได้แก่ $2,975 ตามด้วย $2,956 และ $2,935 ตามลำดับ หากราคาสามารถยืนเหนือแนวรับที่ $2,975 ได้อย่างแข็งแกร่ง จะเป็นสัญญาณบวกสำหรับการทดสอบแนวต้านถัดไป ในทางกลับกัน หากราคาหลุดแนวรับนี้ อาจนำไปสู่การปรับฐานลงสู่ระดับ $2,956 ซึ่งเป็นระดับที่น่าจะมีแรงซื้อเข้ามาหนุน

สำหรับแนวต้านสำคัญ ระดับแรกคือ $3,000 ซึ่งเป็นระดับจิตวิทยาสำคัญที่ราคากำลังทดสอบอยู่ในขณะนี้ หากสามารถผ่านไปได้ เป้าหมายถัดไปจะอยู่ที่ $3,019 และ $3,037 ซึ่งเป็นแนวต้านตามระดับ Fibonacci Extension ที่ 141.40% และ 161.80% ตามลำดับ

คาดการณ์ว่าในช่วง 24 ชั่วโมงข้างหน้า ราคาทองคำมีโอกาสที่จะทดสอบระดับ $3,000 อีกครั้ง แต่ด้วยค่า RSI ที่อยู่ในระดับสูง มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดการพักฐานในระยะสั้นลงมาทดสอบแนวรับที่ $2,975 และหากแรงขายมีมากขึ้น อาจลงไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ $2,956 ซึ่งเป็นจุดที่น่าจะมีแรงซื้อกลับเข้ามา นักลงทุนควรให้ความสำคัญกับการจัดการความเสี่ยงในช่วงนี้ โดยอาจพิจารณาปรับลดขนาดการลงทุนหรือทยอยทำกำไรบางส่วน เนื่องจากโอกาสเกิดความผันผวนมีสูง แม้ว่าแนวโน้มหลักในระยะกลางถึงระยะยาวยังคงเป็นขาขึ้นก็ตาม

แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $2,975

• $2,956

• $2,935

แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $3,000

• $3,019

• $3,037