วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 24 ก.พ. 2568

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >     

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568 ราคาทองคำ XAU/USD ยังคงเดินหน้าทำสถิติสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำสามารถทำสถิติสูงสุดที่ระดับ $2,954 ต่อออนซ์ ซึ่งถือเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันยาวนานที่สุดนับตั้งแต่กลางปี 2000 เมื่อราคาทองคำทะลุระดับ $2,000 ต่อออนซ์เป็นครั้งแรก

Alex Ebkarian ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Allegiance Gold กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงนี้เป็นรูปแบบคลาสสิกที่มีการทำจุดสูงสุดใหม่ตามด้วยการทำกำไร อย่างไรก็ตามปัจจัยพื้นฐานของทองคำยังคงแข็งแกร่ง

ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลกและความไม่มั่นคงทางการเมืองได้กระตุ้นความต้องการลงทุนในทองคำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากประธานาธิบดี Donald Trump ประกาศว่าจะมีการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าเพิ่มเติมภายในเดือนหน้า ครอบคลุมถึงไม้แปรรูปและผลิตภัณฑ์จากป่าไม้ นอกเหนือจากแผนการเดิมที่จะเก็บภาษีรถยนต์นำเข้า เซมิคอนดักเตอร์ และเภสัชภัณฑ์

Peter Grant รองประธานและนักกลยุทธ์อาวุโสด้านโลหะมีค่าของ Zaner Metals ให้ความเห็นว่า ความตึงเครียดทางการค้าที่ดำเนินอยู่ยังคงกระตุ้นความกังวลเรื่องเงินเฟ้อและการเติบโตทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้นักลงทุนหันมาสนใจทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

ตลาดที่อยู่อาศัยสหรัฐฯ ส่งสัญญาณชะลอตัวรุนแรง กดดันราคาทองคำผันผวน

ข้อมูลล่าสุดจาก National Association of Realtors (NAR) เผยว่ายอดขายบ้านมือสองในเดือนมกราคมปรับตัวลดลง 4.9% สู่ระดับ 4.08 ล้านยูนิตต่อปี ซึ่งแย่กว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ -1.7%

Lawrence Yun หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ NAR อธิบายว่าอัตราดอกเบี้ยจำนองไม่ได้ปรับตัวลดลงแม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นหลายครั้ง เมื่อรวมกับราคาบ้านที่สูงขึ้น ทำให้ความสามารถในการซื้อบ้านยังคงเป็นความท้าทายสำคัญ

สภาพตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซาส่งผลให้ราคาทองคำเผชิญกับแรงขายทำกำไร โดยราคา Spot Gold ล่าสุดอยู่ที่ $2,927 ต่อออนซ์ ลอย่างไรก็ตาม ราคายังคงยืนเหนือระดับ $2,920 ต่อออนซ์ได้

ภาคบริการสหรัฐฯ หดตัวครั้งแรกในรอบ 25 เดือน ท่ามกลางความกังวลนโยบายรัฐบาล

ทางฝั่งของรายงานดัชนี Purchasing Managers Index (PMI) ของ S&P Global แสดงให้เห็นว่าภาคบริการของสหรัฐฯ หดตัวลงสู่ระดับ 48.7 ในเดือนกุมภาพันธ์ จากระดับ 52.9 ในเดือนมกราคม ซึ่งถือเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบ 25 เดือน

Chris Williamson หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ธุรกิจของ S&P Global Market Intelligence ชี้ว่าความเชื่อมั่นทางธุรกิจที่แข็งแกร่งในช่วงต้นปีได้หายไป แทนที่ด้วยภาพความกังวลของความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้น

กิจกรรมทางธุรกิจที่ชะงัก และราคาที่สูงขึ้น ธุรกิจต่างๆ แสดงความกังวลในวงกว้างเกี่ยวกับผลกระทบจากนโยบายของรัฐบาลกลาง ตั้งแต่การตัดงบประมาณไปจนถึงภาษีนำเข้าและพัฒนาการทางภูมิรัฐศาสตร์ ยอดขายได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนที่เกิดจากสภาพแวดล้อมทางการเมืองที่เปลี่ยนแปลงไป และราคาปรับตัวสูงขึ้นท่ามกลางการเพิ่มขึ้นของราคาจากซัพพลายเออร์ที่เกี่ยวข้องกับภาษีนำเข้า

นักวิเคราะห์คาดการณ์ทองคำพุ่งแตะ $3,000 ต่อออนซ์ในไม่ช้า 

Christopher Vecchio หัวหน้าฝ่าย Futures & Forex ที่ Tastylive.com มองว่าแม้ราคาทองคำจะดูแพงเกินไปแต่ก็ไม่สามารถมองข้ามแรงส่งขาขึ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับอย่างแข็งแกร่งได้ เขาเชื่อว่าเป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นที่ราคาทองคำจะทะลุ $3,000 ต่อออนซ์ 

“ทองคำมีความยืดหยุ่นในแง่ของปัจจัยสนับสนุนซึ่งจะผลักดันราคาให้สูงขึ้นต่อไป ไม่ว่าจะเป็นความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ การพังทลายของการค้าโลก หรือการหนีออกจากสกุลเงินดั้งเดิมในทุนสำรองของธนาคารกลาง ปัจจัยเหล่านี้จะยังคงอยู่”

Lukman Otunuga ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ตลาดที่ FXTM คาดว่าความไม่แน่นอนทางการเมืองในยุโรปจะยังคงกระตุ้นความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะการเลือกตั้งในเยอรมนี นอกจากนี้ รายงานดัชนี PCE Core ของสหรัฐฯ ในวันศุกร์อาจส่งผลต่อการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed ซึ่งจะส่งผลต่อราคาทองคำ

Naeem Aslam หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ Zaye Capital Markets เตือนว่าความเสี่ยงที่สำคัญที่สุดของทองคำในขณะนี้คือการเปลี่ยนแปลงของการคาดการณ์นโยบายการเงิน หากเงินเฟ้อลดลงเร็วกว่าที่คาดหรือธนาคารกลางเข้มงวดมากขึ้น อาจสร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำได้

James Stanley นักกลยุทธ์ตลาดอาวุโสจาก Forex.com แสดงความเห็นว่าราคาทองคำจะไม่เผชิญแรงต้านที่สำคัญจนกว่าจะแตะระดับ $3,000 ต่อออนซ์ ระดับราคานี้ถือเป็นจุดสำคัญทางจิตวิทยาที่ต้องใช้เวลาในการทะลุผ่าน “คาดว่าราคาทองคำจะขึ้นไปถึง $3,000 แต่จะพักตัวอยู่ในระดับนั้นสักระยะ” พร้อมชี้ว่าการเคลื่อนไหวของราคาทองคำเหนือระดับ $3,000 จะขึ้นอยู่กับนโยบายการคลังของรัฐบาลสหรัฐฯ และนโยบายการเงินของธนาคารกลาง

จับตาการเลือกตั้งเยอรมนีและตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้

ในขณะเดียวกัน ตลาดเงินและตลาดทุนทั่วโลกกำลังจับตาการเลือกตั้งในเยอรมนี ประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในยุโรป ผลการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นตัวกำหนดทิศทางทางการเมืองและเศรษฐกิจของเยอรมนีในอีกหลายปีข้างหน้า นักวิเคราะห์หลายรายเตือนว่าหากผลการเลือกตั้งนำไปสู่รัฐสภาที่แตกแยก อาจส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนทางการเมืองและกระตุ้นให้นักลงทุนหันไปถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำมากขึ้น

นอกจากปัจจัยทางการเมือง ตลาดยังให้ความสำคัญกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่จะประกาศในสัปดาห์หน้า โดยเฉพาะดัชนี PCE Core ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ให้ความสำคัญ หากตัวเลขเงินเฟ้อชะลอตัวลงมากกว่าที่คาด อาจเพิ่มแรงกดดันให้ Fed ต้องพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย การปรับลดอัตราดอกเบี้ยจึงทำให้ต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำลดลง

ความกังวลเกี่ยวกับนโยบายการค้าของประธานาธิบดี Trump ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนราคาทองคำ การประกาศเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติมในเดือนหน้าสะท้อนให้เห็นถึงความตึงเครียดทางการค้าที่อาจทวีความรุนแรงขึ้น ผู้ประกอบการในภาคการผลิตรายงานว่าต้นทุนวัตถุดิบเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากการเก็บภาษีนำเข้า ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดแรงกดดันเงินเฟ้อในเดือนข้างหน้า หรือกระทบต่ออัตรากำไรของบริษัทในสหรัฐฯ

การลงทุนในกองทุน ETF ที่อ้างอิงกับทองคำ (Gold-backed ETF) ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนสถาบันเริ่มเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในทองคำมากขึ้น ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้น ธนาคารกลางของประเทศต่างๆ ก็มีแนวโน้มที่จะลดการถือครองดอลลาร์สหรัฐในทุนสำรองระหว่างประเทศและหันมาถือครองทองคำมากขึ้น เพื่อกระจายความเสี่ยงและลดการพึ่งพาดอลลาร์สหรัฐ

💸 ห้ามพลาด!!! 💸

แจกโบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์! 🎁🎁🎁

ค่าคอมฯ 0 สเปรดต่ำ! เงินฝากขั้นต่ำ $50 🤑

ฝึกเทรดด้วยเงินเสมือนจริง $50, 000 ฟรี 💰

เทรดเดี๋ยวนี้

การลงทุนมีความเสี่ยง อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน

สถานการณ์ของทองคำได้พัฒนาไปตามที่คาดการณ์ไว้ โดยราคาได้ปรับตัวลงมาทดสอบแนวรับที่ $2,920

การเคลื่อนไหวในช่วงล่าสุดแสดงให้เห็นถึงการอ่อนตัวของแรงซื้อที่ชัดเจนขึ้น โดยราคาปัจจุบันที่ $2,926 อยู่ในจุดที่เฝ้าระวัง เนื่องจากเป็นระดับที่ใกล้กับแนวรับสำคัญ $2,920 มาก การเคลื่อนไหวในลักษณะนี้มักบ่งชี้ถึงความเสี่ยงที่ราคาอาจจะหลุดแนวรับลงไปได้

สัญญาณ Bearish Divergence ที่ได้กล่าวถึงก่อนหน้านี้ได้ส่งผลกระทบต่อราคาอย่างเห็นได้ชัด โดย RSI ได้ปรับตัวลงต่อเนื่องและยังไม่มีสัญญาณของการฟื้นตัว ในขณะที่ Stochastic RSI ก็ยังคงเคลื่อนตัวในทิศทางขาลง ซึ่งเป็นการยืนยันแนวโน้มการอ่อนตัวในระยะสั้น

องค์ประกอบทางเทคนิคเพิ่มเติมที่น่าสนใจคือ เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะสั้น (สีแดง) เริ่มแสดงสัญญาณของการแผ่วตัวลง แม้จะยังอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยระยะกลาง (สีฟ้า) แต่ระยะห่างระหว่างเส้นทั้งสองกำลังแคบลง ซึ่งอาจนำไปสู่การตัดกันของเส้นค่าเฉลี่ยในทิศทางขาลงได้ในอนาคตอันใกล้

สำหรับกลยุทธ์การเทรดในระยะต่อไป ควรให้ความสำคัญกับการป้องกันความเสี่ยงเป็นหลัก โดยเฉพาะในกรณีที่ถือสถานะซื้อ การตั้ง Stop Loss ที่ระดับ $2,900 ยังคงมีความสำคัญมากขึ้น เนื่องจากหากราคาหลุดระดับนี้ อาจเห็นการปรับตัวลงที่รุนแรงได้

ในมุมมองระยะกลาง แม้ว่าแนวโน้มหลักจะยังเป็นขาขึ้น แต่การเคลื่อนไหวในระยะสั้นกำลังอยู่ในช่วงของการพักตัว การเข้าซื้อใหม่ควรรอให้เห็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน โดยเฉพาะการยืนเหนือระดับ $2,940 อย่างมั่นคงก่อน

แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $2,920

• $2,900

• $2,878

แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $2,940

• $2,960

• $2,980