วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 19 ก.พ. 2568

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >     

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568 ราคาทองคำ XAU/USD ทะยานขึ้นแตะระดับ 2,935 ดอลลาร์ จ่อทำจุดสูงสุดตลอดกาลครั้งใหม่ ท่ามกลางความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยที่เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายการค้าที่ยังมีข้อถกเถียงของประธานาธิบดี Donald Trump

ทางด้านธนาคาร Goldman Sachs ก็ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาทองคำเป็น 3,100 ดอลลาร์ภายในสิ้นปีนี้ โดยระบุว่าอุปสงค์ของธนาคารกลางที่สูงขึ้นจะผลักดันให้ราคาเพิ่มขึ้นอีก

ข้อมูลนี้ถูกตอกย้ำโดย World Gold Council (WGC) ที่เปิดเผยว่าธนาคารกลางทั่วโลกเพิ่มการซื้อทองคำมากกว่า 54% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า นักวิเคราะห์หลายรายมองว่าการเพิ่มขึ้นของราคาทองคำสะท้อนถึงความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับเสถียรภาพทางการเงินของสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารของทรัมป์

อย่างไรก็ตาม ตลาดทองคำยังต้องระมัดระวัง หลังจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เริ่มแสดงความกังวลเกี่ยวกับการควบคุมเงินเฟ้อ หลังจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันห้าเดือน

Mary Daly ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขาซานฟรานซิสโกกล่าวว่า

“นโยบายจำเป็นต้องเข้มงวดจนกว่าจะเห็นว่าเรากำลังทำให้เงินเฟ้อลดลงอย่างต่อเนื่องจริงๆ”

ภาคการผลิตนิวยอร์กฟื้นตัวแข็งแกร่งเกินคาด แต่เงินเฟ้อพุ่งทำสถิติรอบ 2 ปี

ธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขานิวยอร์กรายงานว่าดัชนี Empire State Manufacturing Survey เดือนกุมภาพันธ์อยู่ที่ระดับ 5.70 ฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งจากระดับ -12.60 ในเดือนมกราคม และดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ -1.0 สะท้อนให้เห็นว่ากิจกรรมทางธุรกิจในรัฐนิวยอร์กกลับมาขยายตัวในเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากที่หดตัวลงอย่างรุนแรงในเดือนก่อนหน้า

แต่ประเด็นที่น่ากังวลคือ ดัชนีราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่สอง โดยดัชนีราคาจ่ายเพิ่มขึ้น 11 จุดแตะระดับ 40.2 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปี และดัชนีราคารับเพิ่มขึ้น 10 จุดแตะระดับ 19.6 สะท้อนให้เห็นแรงกดดันด้านต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น

แม้ว่าบริษัทต่างๆ คาดว่าสภาวะธุรกิจจะปรับตัวดีขึ้นในอีกหกเดือนข้างหน้า แต่ความเชื่อมั่นลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยดัชนีกิจกรรมทางธุรกิจในอนาคตลดลง 15 จุดเหลือ 22.2 และแผนการลงทุนด้านทุนยังคงอ่อนแอ นอกจากนี้ ผู้ประกอบการคาดว่าความพร้อมของอุปทานจะลดลงบ้างในช่วงหกเดือนข้างหน้า

Elon Musk เตรียมตรวจสอบทองคำสำรองที่ฟอร์ต น็อกซ์ หลังได้รับเชิญจากวุฒิสมาชิก

Elon Musk ประกาศผ่านแพลตฟอร์ม X ว่าเตรียมเข้าตรวจสอบทองคำสำรองของสหรัฐฯ ที่ฟอร์ต น็อกซ์ ในนามของกระทรวงประสิทธิภาพการบริหาร (Department of Government Efficiency: DOGE) โดยการประกาศครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่เขาได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการตรวจสอบระบบการชำระเงินของกระทรวงการคลัง

วุฒิสมาชิก Rand Paul แห่งรัฐเคนทักกี้ ซึ่งเป็นรัฐที่ตั้งของฟอร์ต น็อกซ์ เปิดเผยในการให้สัมภาษณ์กับ Fox News ว่าเป็นผู้เชิญมัสก์ให้เข้ามาตรวจสอบคลังทองคำสำรอง หลังจากที่เขาพยายามเข้าถึงสถานที่แห่งนี้มานานกว่าทศวรรษ พอลกล่าวว่า

“ผมคิดว่าบางคนอาจมองว่าไม่จำเป็นต้องตรวจสอบตลอดเวลา แต่ผมเชื่อว่ายิ่งโปร่งใสมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น”

วุฒิสมาชิกพอลยังยืนยันว่าแม้ดอลลาร์สหรัฐจะไม่ได้ผูกติดกับทองคำอย่างชัดเจนมานานกว่า 50 ปีแล้ว แต่โลหะมีค่านี้ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของมูลค่าที่อยู่เบื้องหลังเงินดอลลาร์

“มันทำให้เห็นว่าทองคำยังคงมีมูลค่า และนั่นหมายความว่าทองคำยังคงให้มูลค่าแก่ดอลลาร์ นั่นคือเหตุผลที่เราไม่ทิ้งทองคำ เรามีทองคำไว้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศมีมันไว้ ธนาคารโลกมีมันไว้ ธนาคารกลางส่วนใหญ่ทั่วโลกมีทองคำ และมันเป็นความไว้วางใจโดยนัยว่าดอลลาร์ยังคงมีสิ่งค้ำประกันบางอย่าง”

ตามข้อมูลของ World Gold Council ณ สิ้นปี 2024 สหรัฐฯ มีทองคำสำรองมากที่สุดในโลกที่ 8,100 ตัน โดยส่วนใหญ่เก็บไว้ที่คลังฟอร์ต น็อกซ์ซึ่งมีพื้นที่ 108,955 เอเคอร์ ส่วนที่เหลือเก็บที่ธนาคารกลางนิวยอร์ก

พอลเปิดเผยว่าเขาพยายาม “ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามันยังอยู่ครบ” มานานกว่า 10 ปี โดยเขาได้รับอนุญาตให้เข้าฟอร์ต น็อกซ์ในปี 2017 ระหว่างการบริหารงานชุดแรกของทรัมป์ แต่ช่วงเวลาไม่เหมาะสม แทนที่จะเป็นเขา รัฐมนตรีคลัง Steve Mnuchin และวุฒิสมาชิก Mitch McConnell จากรัฐเคนทักกี้เป็นผู้เข้าเยี่ยมชมคลัง

มัสก์ยังไม่ได้ประกาศว่าจะเข้าตรวจสอบเมื่อไหร่ และจะใช้วิธีใดในการยืนยันปริมาณและความแท้จริงของทองคำ อย่างไรก็ตาม ส่วนหนึ่งในแผนของมัสก์ ดูเหมือนจะมีการถ่ายทอดสดวิดีโอการเดินชมสถานที่ลับสุดยอดแห่งนี้ด้วย

รัฐบาลทรัมป์อาจปรับมูลค่าทองคำสำรอง หวังเสริมความแข็งแกร่งงบดุลประเทศ

ทองคำสำรองของสหรัฐฯ ได้รับความสนใจมากที่สุดในรอบหลายทศวรรษ หลังจากคณะบริหารของทรัมป์แสดงท่าทีที่จะนำทองคำมาเป็นส่วนหนึ่งในแผนเศรษฐกิจ ท่ามกลางการคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นว่ารัฐบาลสหรัฐฯ อาจปรับการประเมินมูลค่าทุนสำรองทองคำของประเทศ

กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ถือครองทองคำมากที่สุดในโลกที่ 8,100 ตัน แต่มูลค่าของทองคำไม่ได้เปลี่ยนแปลงตั้งแต่ปี 1972 ที่กำหนดไว้ที่ออนซ์ละ 42 ดอลลาร์

การคาดการณ์เกี่ยวกับคลังทองคำของรัฐบาลสหรัฐฯ เริ่มเพิ่มขึ้นในต้นเดือนนี้ หลังจาก Scott Bessent รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่กล่าวว่าเขาจะ “สร้างมูลค่าให้กับสินทรัพย์ในงบดุลของสหรัฐฯ”

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ Bloomberg รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยชื่อว่าแนวคิดนี้ไม่ได้อยู่ “ภายใต้การพิจารณาอย่างจริงจัง” ในหมู่ที่ปรึกษาเศรษฐกิจระดับสูงของประธานาธิบดีทรัมป์

นักวิเคราะห์ระบุว่าหากรัฐบาลปรับมูลค่าทองคำสำรองตามราคาปัจจุบันที่สูงกว่า 2,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จะเพิ่มมูลค่าให้กับกระทรวงการคลังได้มากกว่า 760 พันล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม Robert Minter ผู้อำนวยการด้านกลยุทธ์ ETF ของ abrdn ชี้ว่าราคาทองคำที่สูงขึ้นของรัฐบาลจะไม่เปลี่ยนแปลงปัญหางบดุลอย่างมีนัยสำคัญ

Nicky Shiels หัวหน้าฝ่ายวิจัยและกลยุทธ์โลหะของ MKS PAMP ระบุว่าเงินทุนที่ได้จะเป็นเพียงส่วนเล็กน้อยเมื่อเทียบกับหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ ที่สูงกว่า 36 ล้านล้านดอลลาร์ แม้ว่าประเด็นนี้จะยังคงเป็นการถกเถียง แต่ Shiels กล่าวว่ายังไม่ชัดเจนว่าสิ่งนี้จะเป็นปัจจัยบวกหรือลบต่อราคาทองคำ

อย่างไรก็ตาม เธอชี้ให้เห็นความเสี่ยงบางประการ เนื่องจากนี่จะเป็นการกระตุ้นครั้งเดียวสำหรับกระทรวงการคลัง ความเสี่ยงประการที่สองคือการปรับมูลค่าใหม่นี้จะเกิดขึ้นในขณะที่ราคาทองคำซื้อขายใกล้ระดับสูงสุดตลอดกาล

💸 ห้ามพลาด!!! 💸

แจกโบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์! 🎁🎁🎁

ค่าคอมฯ 0 สเปรดต่ำ! เงินฝากขั้นต่ำ $50 🤑

ฝึกเทรดด้วยเงินเสมือนจริง $50, 000 ฟรี 💰

เทรดเดี๋ยวนี้

การลงทุนมีความเสี่ยง อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน

จากการวิเคราะห์ก่อนหน้าที่มีการฟื้นตัวจากแนวรับที่ $2,884 เราเห็นการเคลื่อนไหวที่น่าสนใจมากในช่วงถัดมา โดยราคาทองคำได้แสดงให้เห็นถึงพลังของแรงซื้อที่แข็งแกร่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

การเคลื่อนไหวของราคาในช่วงนี้มีความสอดคล้องกับการคาดการณ์เดิมที่ว่าหากราคาสามารถยืนเหนือ $2,906 ได้ จะมีโอกาสไปทดสอบแนวต้านที่สูงขึ้น และนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริง โดยราคาได้ทะลุผ่านแนวต้านที่ $2,920 ขึ้นไปได้อย่างน่าประทับใจ จนปัจจุบันอยู่ที่ระดับ $2,938

ค่า RSI ได้ปรับตัวขึ้นมาอยู่ในโซนเหนือ 60 แสดงถึงโมเมนตัมเชิงบวกที่แข็งแกร่ง แต่ยังไม่ถึงระดับ Overbought ที่ 70 ซึ่งหมายความว่ายังมีพื้นที่สำหรับการปรับตัวขึ้นต่อได้

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องระวังคือ Momentum ที่อ่อนตัวลง โดย RSI เริ่มแสดงสัญญาณของ Divergence จากการที่ราคาขยับขึ้น แต่ RSI ไม่สูงขึ้นตาม ซึ่งต้องเฝ้าดูกันต่อไป

ด้านแนวโน้มของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ทั้งระยะสั้นและระยะกลางก็ยังคงชี้ขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะเส้น EMA ระยะสั้นที่กำลังแยกตัวห่างจากเส้น EMA ระยะยาวมากขึ้น แสดงถึงแรงส่งของแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง

สำหรับมุมมองการเทรดในระยะถัดไป ควรจับตาดูการทดสอบแนวต้านสำคัญที่ $2,940 ซึ่งเป็นระดับจุดสูงสุดตลอดกาลเดิม หากราคาสามารถทะลุผ่านระดับนี้ไปได้ โอกาสที่จะเห็นการวิ่งขึ้นทดสอบแนวต้านจิตวิทยาที่ $2,960 - $3,000 มีความเป็นไปได้สูง อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรระมัดระวังการเกิด Pullback ในระยะสั้น โดยมีแนวรับสำคัญอยู่ที่ $2,920 และ $2,900

ในภาพรวม แนวโน้มหลักยังคงเป็นขาขึ้นอย่างชัดเจน โดยมีปัจจัยสนับสนุนทั้งจากการวิเคราะห์ทางเทคนิคและแรงซื้อที่ต่อเนื่อง การทะลุผ่านแนวต้านสำคัญหลายระดับแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของแนวโน้มปัจจุบัน แต่นักลงทุนควรติดตามปริมาณการซื้อขายและสัญญาณการอ่อนตัวของโมเมนตัมที่อาจเกิดขึ้นเมื่อราคาเข้าใกล้จุดสูงสุดตลอดกาล

แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $2,920

• $2,900

• $2,878

แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $2,940

• $2,960

• $2,980