วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 8 ม.ค. 2568
ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 8 มกราคม 2568 ราคาทองคำกลับมาร้อนแรงอีกครั้งแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ หลังได้แรงหนุนจากการประกาศซื้อทองคำครั้งใหม่ของธนาคารกลางจีน (PBoC) โดยในเดือนธันวาคม 2024 PBoC ได้เพิ่มทองคำสำรองอีก 10 ตัน นับเป็นการซื้อทองคำเดือนที่สองติดต่อกันหลังจากที่หยุดพักไป 6 เดือน ส่งผลให้ราคาทองคำพุ่งแตะระดับ 2,664 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในวันที่ผ่านมาก่อนที่จะปรับตัวลงเล็กน้อยในช่วงเช้าวันนี้
นักลงทุนและนักวิเคราะห์จับตาความเคลื่อนไหวของธนาคารกลางจีนอย่างใกล้ชิด เนื่องจากการซื้อทองคำของจีนเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ราคาทองคำทำสถิติสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่องในปี 2024 ความต้องการทองคำที่แข็งแกร่งของธนาคารกลางจีนยังสอดคล้องกับความต้องการที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ของผู้บริโภคชาวจีน ซึ่งช่วยชดเชยความสนใจที่ลดลงจากนักลงทุนตะวันตก
Carsten Fritsch นักวิเคราะห์โลหะมีค่าจาก Commerzbank อธิบายว่า กองทุน ETF ทองคำมีอิทธิพลต่อทิศทางราคาทองคำน้อยลงอย่างชัดเจน ในขณะที่การซื้อทองคำของธนาคารกลางกลับมีอิทธิพลมากขึ้นในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการซื้อทองคำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทองคำยังคงมีสัดส่วนเพียง 5% ของทุนสำรองระหว่างประเทศของจีนเท่านั้น เทียบกับ 9.3% ของธนาคารกลางอินเดีย และสัดส่วนที่สูงกว่านั้นของ Bank of England และ European Central Bank
ตลาดแรงงานสหรัฐฯ แกร่งเกินคาด กดดันความหวังการลดดอกเบี้ย
ทางด้านตลาดแรงงานสหรัฐฯ ก็ยังคงแสดงความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง สะท้อนจากจำนวนตำแหน่งงานว่าง (Job Openings) ที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ตามรายงานการสำรวจตำแหน่งงานว่างและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) จากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ พบว่าตำแหน่งงานว่างในเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้นเป็น 8.10 ล้านตำแหน่ง จาก 7.74 ล้านตำแหน่งในเดือนตุลาคม สูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 7.73 ล้านตำแหน่ง
นักวิเคราะห์หลายรายมองว่าตลาดแรงงานที่ยังคงแข็งแกร่งอาจส่งผลให้ (Fed) ชะลอการผ่อนคลายนโยบายการเงินในปีนี้ หลังจากที่เมื่อเดือนที่แล้ว Fed ส่งสัญญาณว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้งในปี 2025 ลดลงจากประมาณการเดิมที่ 4 ครั้ง สะท้อนจากสัญญาซื้อขายล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยกองทุน Fed (Fed funds futures) ที่ Chicago Board of Trade (CBOT) ซึ่งแสดงให้เห็นว่านักลงทุนคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยรวม 51 basis points หรือการปรับลด 2 ครั้งครั้งละ 25 basis points ภายในสิ้นปีนี้
ภาคบริการสหรัฐฯ ส่งสัญญาณฟื้นตัวแข็งแกร่ง แต่แรงกดดันเงินเฟ้อกลับมาน่ากังวล
ทางด้าน Institute for Supply Management (ISM) รายงานว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการ ของสหรัฐฯ ในเดือนธันวาคมปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 54.1 จาก 52.1 ในเดือนพฤศจิกายน สูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 53.5 นับเป็นการขยายตัวครั้งที่ 10 ในรอบปี สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของภาคบริการซึ่งเป็นภาคส่วนสำคัญของเศรษฐกิจสหรัฐฯ
Steve Miller ประธาน ISM Services Business Survey Committee อธิบายว่า การขยายตัวของดัชนี PMI ในเดือนธันวาคมได้แรงหนุนหลักจากดัชนีกิจกรรมทางธุรกิจที่พุ่งขึ้นแตะ 58.2 จาก 53.7 ในเดือนพฤศจิกายน และดัชนีการส่งมอบของซัพพลายเออร์ที่ฟื้นตัวขึ้นมาอยู่ที่ 52.5 จาก 49.5 ในเดือนก่อนหน้า
ตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลงอย่างรวดเร็วหลังการประกาศข้อมูล โดยราคา Spot Gold ร่วงลงจากระดับ 2,659 ดอลลาร์ต่อออนซ์ก่อนการประกาศตัวเลข มาอยู่ที่ 2,643 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงไม่กี่นาทีหลังการประกาศ ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นมาซื้อขายที่ 2,650.33 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 0.54% เมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า
ท่าทีแข็งกร้าวของทรัมป์สั่นคลอนระเบียบโลก หนุนทองคำทะยานในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
Donald Trump ประธานาธิบดีผู้ได้รับเลือกตั้งของสหรัฐฯ สร้างความตื่นตระหนกให้กับตลาดการเงินโลก หลังจากแถลงข่าวแสดงจุดยืนนโยบาย America First ที่แข็งกร้าวกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ โดยกล่าวถึงความเป็นไปได้ในการใช้มาตรการบีบบังคับทางเศรษฐกิจกับประเทศพันธมิตรอย่างแคนาดา พร้อมระบุว่าสหรัฐฯ ใช้งบประมาณหลายแสนล้านดอลลาร์ต่อปีในการปกป้องแคนาดา ในขณะที่ต้องเผชิญกับปัญหาการขาดดุลการค้ากับประเทศเพื่อนบ้านทางเหนือ
นอกจากนี้ Trump ยังได้กล่าวถึงแผนการที่จะเรียกร้องให้เดนมาร์กยกกรีนแลนด์ให้กับสหรัฐฯ โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคงของโลกเสรี ระบุว่า “ผู้คนส่วนใหญ่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเดนมาร์กมีสิทธิทางกฎหมายเหนือกรีนแลนด์จริงหรือไม่ แต่ถ้ามี พวกเขาควรจะยกให้เรา เพราะเราต้องการมันเพื่อความมั่นคงของชาติ นี่เป็นเรื่องของการปกป้องโลกเสรี” พร้อมกันนี้ยังแสดงความต้องการที่จะเข้าควบคุมคลองปานามา และเสนอให้เปลี่ยนชื่ออ่าวเม็กซิโกเป็น “อ่าวอเมริกา”
ถ้อยแถลงที่แข็งกร้าวของ Trump ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นในระยะสั้น และกดดันการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ อย่างไรก็ตาม Chantelle Schieven หัวหน้าฝ่ายวิจัยจาก Capitalight Research มองว่าตลาดยังอยู่ในโหมด “รอดูท่าที” เพื่อประเมินความเป็นไปได้และผลกระทบของข้อเสนอเหล่านี้ โดยระบุว่าถ้อยแถลงบางส่วนอาจเป็นเพียงส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การเจรจาต่อรองในวงกว้าง “ความไม่แน่นอนที่สำคัญคือระดับความแข็งกร้าวที่เขาจะใช้ในการผลักดันนโยบายเหล่านี้”
รายงาน WEF ชี้โลกาภิวัตน์ถดถอย แนวโน้มทองคำปี 2025 มีโอกาสทะลุ 3,000 ดอลลาร์
รายงาน Global Cooperation Barometer ฉบับล่าสุดจาก World Economic Forum (WEF) ส่งสัญญาณเตือนว่าความร่วมมือระดับโลกกำลังอยู่ในภาวะชะงักงัน โดยเฉพาะในเสาหลักด้านสันติภาพและความมั่นคงที่เสื่อมถอยลงอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา ท่ามกลางความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงในภูมิภาคต่างๆ ทั้งตะวันออกกลาง ยูเครน และซูดาน
Craig Shapiro นักยุทธศาสตร์มหภาคจาก The Bear Traps Report มองว่าโลกกำลังเปลี่ยนผ่านสู่ระเบียบโลกใหม่ “ระบบเก่ากำลังตายลง และระบบใหม่ที่จะเกิดขึ้นมีแนวโน้มจะเป็นแบบพาณิชย์นิยมและพหุภาคีมากขึ้น โดยมีทองคำเป็นสินทรัพย์กลางในการชำระบัญชีระหว่างประเทศ”
นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์เห็นพ้องว่าการเปลี่ยนผ่านสู่โลกหลายขั้วอำนาจจะเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาทองคำตลอดปี 2025 โดย Chantelle Schieven จาก Capitalight Research คาดการณ์ว่าราคาทองคำมีโอกาสทะลุ 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงครึ่งหลังของปี เนื่องจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น สอดคล้องกับมุมมองของ Ryan McIntyre จาก Sprott Inc. ที่เชื่อว่าทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่น่าดึงดูดที่สุดในโลกหลายขั้ว โดยเฉพาะในสภาวะที่หนี้สาธารณะทั่วโลกพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์
วิเคราะห์กราฟทองวันนี้
จากการวิเคราะห์สถานการณ์ล่าสุดของราคาทองคำ แม้ว่าราคาจะสามารถทะลุแนวต้าน $2,657 ขึ้นไปได้ แต่ไม่สามารถรักษาระดับเหนือแนวต้านนี้ได้อย่างมั่นคง และมีการปรับตัวลงมาอย่างรวดเร็ว ซึ่งเหตุการณ์นี้มีนัยสำคัญทางเทคนิคที่น่าสนใจ
การที่ราคาไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านได้และปรับตัวลงมาอย่างรวดเร็วนั้น เป็นรูปแบบที่เรียกว่า “False Breakout” หรือ “Bull Trap” ซึ่งมักเกิดขึ้นเมื่อแรงซื้อไม่เพียงพอที่จะผลักดันราคาให้เคลื่อนที่ขึ้นไปต่อได้ สิ่งนี้อาจสะท้อนให้เห็นว่าแรงซื้อที่ผลักดันราคาขึ้นไปนั้นอาจเป็นเพียงแรงซื้อระยะสั้น และนักลงทุนรายใหญ่อาจใช้โอกาสนี้ในการขายทำกำไร
ที่น่าสังเกตคือ การปรับตัวลงของราคามาพร้อมกับปริมาณการซื้อขาย (Volume) ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นการยืนยันแรงขายที่เข้ามา อย่างไรก็ตาม ยังเห็นว่าราคายังคงเคลื่อนตัวอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย EMA ทั้งสองเส้น และโครงสร้างของ EMA ยังคงเป็นบวก โดยเส้น EMA ระยะสั้น (สีฟ้า) ยังวางตัวเหนือเส้น EMA ระยะยาว (สีส้ม) ซึ่งแสดงว่าแนวโน้มหลักในระยะกลางยังไม่เปลี่ยนแปลง
ในแง่ของ Momentum ตัวชี้วัด RSI เริ่มมีการอ่อนตัวลง แต่ยังไม่ได้เข้าสู่โซน Oversold ขณะที่ Stochastic RSI กำลังเคลื่อนตัวลง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณว่าราคาอาจมีการปรับฐานต่อในระยะสั้น
มองไปข้างหน้า บริเวณ $2,641 และ $2,632 กลายเป็นแนวรับสำคัญที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด หากราคาสามารถยืนเหนือระดับเหล่านี้ได้ โอกาสที่จะเห็นการฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้าน $2,657 อีกครั้งยังคงมีอยู่ แต่หากราคาหลุดลงมาต่ำกว่าแนวรับเหล่านี้ อาจต้องระวังการปรับตัวลงไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ $2,623
แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง
$2,641
$2,632
$2,623
แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง
$2,657
$2,667
$2,677
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน