วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 27 ส.ค. 2567
ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 27 สิงหาคม 2567 ราคาทองคำยังคงทรงตัวได้ดีในช่วงต้นสัปดาห์นี้ โดยล่าสุดราคาทองคำอยู่ที่ระดับ $2,513 ท่ามกลางการคาดการณ์ในวงกว้างว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มผ่อนคลายนโยบายการเงินในเดือนกันยายนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ Jerome Powell ประธานเฟด ได้กล่าวสุนทรพจน์ที่การประชุม Jackson Hole ว่า “ถึงเวลาแล้วที่นโยบายจะต้องปรับเปลี่ยน”
Jerome Powell ได้แสดงความมั่นใจว่าอัตราเงินเฟ้อกำลังมุ่งไปสู่เป้าหมายของเฟดที่ 2% และแสดงความกังวลเกี่ยวกับตลาดแรงงานที่อ่อนแอลง โดยระบุว่าความเสี่ยงด้านการจ้างงานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังเน้นย้ำว่าการชะลอตัวเพิ่มเติมของตลาดแรงงานเป็นสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนถึงความเป็นไปได้ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
Mary Daly ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก ได้กล่าวเสริมความเห็นของ Powell โดยระบุว่า ถึงเวลาแล้วที่จะต้องปรับนโยบาย และเป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการว่าจะมีอะไรมาขัดขวางการลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายนได้ แม้ว่า Daly จะกล่าวว่ายังเร็วเกินไปที่จะทราบขนาดของการปรับลดอัตราดอกเบี้ย แต่เธอก็ชี้แจงว่าหากเศรษฐกิจอ่อนแอลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ เฟดอาจจำเป็นต้องดำเนินการอย่างเข้มข้นมากขึ้น
ตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดยังแข็งแกร่ง
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดยังคงแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน (Durable Goods Orders) ในเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 9.9% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2020 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 4% สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจยังคงมีความยืดหยุ่นแม้จะมีสัญญาณการชะลอตัวบ้าง
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 1 basis point สู่ระดับ 3.81% ในขณะที่นักลงทุนได้ลดการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 50 basis points ในการประชุมเดือนกันยายน โดยข้อมูลจาก CME FedWatch Tool แสดงให้เห็นว่าตลาดได้คาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ย 25 basis points อย่างเต็มที่ ขณะที่โอกาสสำหรับการปรับลดในขนาดที่ใหญ่กว่านั้นลดลงจาก 36.5% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เหลือเพียง 30%
กองทุนเฮดจ์ฟันด์เพิ่มการถือครองทองคำ ท่ามกลางความคาดหวังการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ข้อมูลล่าสุดจากคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity Futures Trading Commission หรือ CFTC) แสดงให้เห็นว่ากองทุนเฮดจ์ฟันด์เริ่มตระหนักถึงคุณค่าของการถือครองทองคำและเงินมากขึ้น โดยผู้จัดการกองทุนได้เพิ่มการเข้าซื้อในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำ Comex เป็น 222,142 สัญญา ในขณะที่สถานะขายลดลงเหลือ 28,837 สัญญา ส่งผลให้สถานะซื้อสุทธิของทองคำอยู่ที่ 193,305 สัญญา ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม 2020
Nicky Shiels หัวหน้าฝ่ายวิจัยและกลยุทธ์โลหะของ MKS PAMP กล่าวว่า แม้ว่าสถานะการเก็งกำไรจะอยู่ในระดับสูง แต่ราคาทองคำยังมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นได้อีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ Powell ส่งสัญญาณชัดเจนเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนนโยบาย ประกอบกับความอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐ Shiels ยังเสริมว่า “ยังไม่ใช่ว่านักลงทุนทุกรายจะเข้ามาในตลาดอย่างเต็มที่ และการยืนยันของ Powell Pivot พร้อมกับความอ่อนค่าเพิ่มเติมของดอลลาร์สหรัฐ น่าจะทำให้เห็นการไหลเข้าของเงินลงทุนเร่งตัวขึ้นจนถึงช่วงการเลือกตั้ง”
นักวิเคราะห์จาก TD Securities ได้ให้ความเห็นว่า ในขณะที่ผู้ซื้อขายตามแนวโน้ม CTA ได้เข้าซื้อจนเต็มที่แล้ว กระแสเงินทุนเหล่านี้ส่วนใหญ่สะท้อนถึงผู้จัดการกองทุนที่มีความเข้าใจ ซึ่งได้รับแรงหนุนจากวงจรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่กำลังจะมาถึง สถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ การขาดดุลงบประมาณ อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง และดอลลาร์ที่อ่อนค่า ทำให้พวกเขาเพิ่มสถานะซื้อสุทธิไปสู่ระดับสูงสุด
อย่างไรก็ตาม Eric Stand นักวิเคราะห์ตลาดโลหะมีค่า ได้เตือนนักลงทุนว่าสถานะการเก็งกำไรที่อยู่ในระดับสูงอาจสร้างความผันผวนในระยะสั้นให้กับตลาดได้ โดยเฉพาะหากเกิดเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องในตลาดการเงิน ซึ่งอาจส่งผลกดดันราคาทองคำได้
ทองคำครองแชมป์สินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดในปี 2024
รายงานล่าสุดจากนักวิเคราะห์ตลาดของธนาคาร Bank of America (BoA) ระบุว่าทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดในปี 2024 โดยราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 20% นับตั้งแต่ต้นปี ซึ่งสูงกว่าผลตอบแทนของสกุลเงินดิจิทัล (17.7%) ตลาดหุ้น (15.4%) สินค้าโภคภัณฑ์โดยรวม (1.9%) พันธบัตรรัฐบาล (0.6%) และดอลลาร์สหรัฐ (0.2%) นอกจากนี้ ทองคำยังให้ผลตอบแทนสูงกว่าดัชนี Nasdaq Composite ซึ่งเป็นตัวแทนของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวขึ้น 17% ในช่วงเวลาเดียวกัน
BoA ยังแนะนำให้นักลงทุนพิจารณาทำตามแบบอย่างของธนาคารกลางทั่วโลกที่เพิ่มการถือครองทองคำในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ โดยระบุว่า “จงทำตามสิ่งที่ธนาคารกลางกำลังทำ นั่นก็คือการซื้อทองคำ” นักวิเคราะห์ของ BoA ยังเสริมว่า “ทองคำกลายเป็นสินทรัพย์สำรองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก (16.1% เทียบกับ 15.6% ของยูโร) และมีความสัมพันธ์กับตลาดหุ้นต่ำที่สุดในบรรดาสินทรัพย์ทุกประเภท”
นักวิเคราะห์ของ BoA คาดการณ์ว่าทองคำอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากขึ้น เนื่องจากความเสี่ยงในตลาดหุ้นมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เฟดเริ่มวงจรการผ่อนคลายนโยบายการเงินในเดือนหน้า พวกเขาชี้ให้เห็นว่า “ประวัติศาสตร์แสดงให้เห็นว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของเฟดมักนำไปสู่การไหลเข้าของเงินสดมากขึ้นในกรณีที่เศรษฐกิจ Soft Landing โดยพันธบัตรมักเป็นผู้ชนะหากเศรษฐกิจเปลี่ยนเป็น Hard Landing”
นอกจากนี้ BoA ยังเตือนว่าตลาดหุ้นอาจเผชิญกับแรงเทขายในระยะสั้น โดยระบุว่า “ในห้าจากหกครั้งที่ Powell กล่าวสุนทรพจน์ที่ Jackson Hole ดัชนี S&P 500 ปรับตัวลดลงโดยเฉลี่ย 7.5% ในช่วงสามเดือนถัดไป
ปัจจัยสนับสนุนราคาทองคำในระยะยาว
นักวิเคราะห์ของ BoA ยังชี้ให้เห็นถึงปัจจัยสนับสนุนราคาทองคำในระยะยาวหลายประการ
ประการแรก คือการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2024 ซึ่งอาจเป็นการปรับลดที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสามในประวัติศาสตร์
ประการที่สอง คือการเพิ่มขึ้นของหนี้สาธารณะของรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลให้เฟดต้องดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นระยะเวลานาน
ประการที่สาม คือความจำเป็นในการ refinance เงินกู้อสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ (Commercial Real Estate หรือ CRE) มูลค่า 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงสองปีนี้ ซึ่งอาจสร้างแรงกดดันต่อระบบการเงิน
ประการสุดท้าย คือความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจทั่วโลก ซึ่งมักส่งผลให้นักลงทุนหันมาถือครองทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
Joy Yang หัวหน้าฝ่ายจัดการผลิตภัณฑ์ดัชนีระดับโลกของ MarketVector Indexes ให้ความเห็นว่าทองคำได้สร้างฐานที่แข็งแกร่งก่อนที่จะทะยานขึ้นสู่จุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มการเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาว
วิเคราะห์กราฟทองวันนี้
ราคาทองคำยังคงแสดงแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่งในระยะกลาง แม้ว่าจะเผชิญกับแรงขายทำกำไรในระยะสั้น เมื่อพิจารณาจากเส้น EMA พบว่า EMA 12 (เส้นสีแดง) และ EMA 26 (เส้นสีฟ้า) ยังคงวิ่งอยู่เหนือ EMA 200 (เส้นสีส้ม) อย่างชัดเจน บ่งชี้ถึงแนวโน้มขาขึ้นในระยะยาวที่ยังคงแข็งแกร่ง นอกจากนี้ ราคาปัจจุบันยังคงอยู่เหนือเส้น EMA ทั้งสามเส้น ซึ่งเป็นสัญญาณบวกสำหรับแนวโน้มขาขึ้น
ดัชนี RSI ปรับตัวลงมาจากระดับ Overbought แต่ยังคงอยู่เหนือเส้น 50 แสดงถึงโมเมนตัมเชิงบวกที่ยังคงมีอยู่ แม้จะมีการอ่อนตัวลงบ้างในระยะสั้น
แนวรับสำคัญที่ควรจับตามองวันนี้เริ่มที่ $2,510 ซึ่งเป็นแนวรับระยะสั้น ถัดไปคือ $2,500 ซึ่งเป็นจุดจิตวิทยา และ $2,493 - $2,483 ส่วนของแนวต้านสำคัญที่ต้องติดตามคือ $2,520 และ $2,531 ซึ่งเป็นจุดสูงสุดตลอดกาล
คาดการณ์แนวโน้มใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า ราคาทองคำมีโอกาสที่จะทดสอบแนวรับที่ $2,510 - $2,500 ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง หากราคาสามารถยืนเหนือระดับนี้ได้ มีความเป็นไปได้สูงที่จะปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ $2,520 และอาจไปถึงจุดสูงสุดเดิมที่ $2,531
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรระมัดระวังหากราคาหลุดแนวรับที่ $2,500 ลงมา เพราะอาจเป็นสัญญาณของการปรับฐานที่ลึกขึ้น โดยอาจมีการทดสอบแนวรับถัดไปที่ $2,493 - $2,483
แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง
$2,510
$2,500
$2,493
แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง
$2,520
$2,531
$2,540
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน