วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 19 ก.ย. 2567
ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 19 กันยายน 2567 ตลาดทองคำเผชิญความผันผวนอย่างรุนแรงในช่วงการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่มีการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลงถึง 0.50% ส่งผลให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ที่ระดับ $2,600ในช่วงระหว่างการแถลงนโยบายของประธานเฟด Jerome Powell ก่อนที่จะปรับตัวลงมา ลดลง 0.38% เมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า สะท้อนให้เห็นถึงความอ่อนไหวของตลาดต่อนโยบายการเงินของสหรัฐฯ และความไม่แน่นอนของสภาวะเศรษฐกิจโลก
เฟดเผยแผนลดดอกเบี้ยครั้งใหญ่ พร้อมส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อเนื่อง
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) มีมติลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.50% มาอยู่ที่ระดับ 4.75 - 5.00% ซึ่งเป็นการปรับลดที่มากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ 0.25% โดยเฟดให้เหตุผลว่าเป็นการตอบสนองต่อความคืบหน้าในการควบคุมเงินเฟ้อและความสมดุลของความเสี่ยงในระบบเศรษฐกิจ การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจของเฟดที่มีต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ และความสามารถในการควบคุมเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับเป้าหมาย
นอกจากนี้ เฟดยังส่งสัญญาณว่าจะมีการปรับลดดอกเบี้ยต่อเนื่องในอนาคต โดยคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยจะลดลงมาอยู่ที่ 4.40% ภายในสิ้นปี 2024 และลดลงเหลือ 3.40% ในปี 2025 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินครั้งสำคัญของเฟด จากที่เคยเน้นการต่อสู้กับเงินเฟ้อมาเป็นการสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจแทน การเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลกในระยะยาว
ประธานเฟดยืนยัน การตัดสินใจลดดอกเบี้ยไม่เกี่ยวกับการเมือง
ในการแถลงข่าวหลังการประชุม Jerome Powell ประธานธนาคารกลางสหรัฐ ได้ยืนยันอย่างหนักแน่นว่าการตัดสินใจลดดอกเบี้ยครั้งนี้ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนประธานาธิบดี Joe Biden ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง และไม่ได้เป็นการตอบสนองต่อวิกฤตเศรษฐกิจที่กำลังจะเกิดขึ้นแต่อย่างใด คำยืนยันนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาความน่าเชื่อถือและความเป็นอิสระของธนาคารกลางสหรัฐ ซึ่งเป็นสถาบันที่มีบทบาทสำคัญในการรักษาเสถียรภาพทางการเงินของประเทศ
Powell กล่าวว่าการตัดสินใจครั้งนี้มาจากการพิจารณาข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดอย่างรอบคอบ ทั้งตัวเลขการจ้างงานและอัตราเงินเฟ้อในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม รวมถึงรายงาน Quarterly Census of Employment and Wages (QCEW) ที่บ่งชี้ว่าตัวเลขการจ้างงานที่รายงานออกมาอาจสูงเกินจริงและอาจมีการปรับลดลงในภายหลัง นอกจากนี้ ยังมีการพิจารณาข้อมูลเชิงคุณภาพจากรายงาน Beige Book ซึ่งรวบรวมข้อมูลเศรษฐกิจจากภูมิภาคต่างๆ ทั่วสหรัฐฯ
“เราสรุปว่านี่เป็นสิ่งที่ถูกต้องสำหรับเศรษฐกิจและประชาชนที่เราให้ดูแล และนั่นคือวิธีที่เราตัดสินใจ” พาวเวลล์กล่าวพร้อมเน้นย้ำว่าเฟดพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนนโยบายหากสถานการณ์เศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงไป
เฟดคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเติบโตอย่างมั่นคง แม้อัตราว่างงานจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
ในส่วนของการคาดการณ์เศรษฐกิจ เฟดประเมินว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเติบโตในอัตรา 2% ต่อปีไปจนถึงปี 2027 ลดลงเพียงเล็กน้อยจากการคาดการณ์เดิมที่ 2.1% ในเดือนมิถุนายน การคาดการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของเฟดต่อความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ แม้จะเผชิญกับความท้าทายต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมา
ขณะที่อัตราการว่างงานคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 4.4% ในปีนี้และปี 2025 ก่อนจะลดลงมาอยู่ที่ 4.2% ในปี 2027 แม้ว่าการเพิ่มขึ้นของอัตราการว่างงานอาจดูเป็นสัญญาณลบ แต่เฟดมองว่านี่เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการปรับสมดุลตลาดแรงงาน ซึ่งจะช่วยลดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในระยะยาว
สำหรับเงินเฟ้อ เฟดคาดว่า Core Personal Consumption Expenditures Price Index (PCE) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ จะลดลงมาอยู่ที่ 2.6% ในปีนี้ และ 2.2% ในปี 2025 ก่อนที่จะเข้าสู่เป้าหมาย 2% ในปี 2026 การคาดการณ์นี้แสดงให้เห็นว่าเฟดมีความมั่นใจว่าจะสามารถควบคุมเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้าหมายได้ในระยะกลาง
ตลาดทองคำคึกคัก นักวิเคราะห์มองราคาทะลุ 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในอนาคต
การตัดสินใจลดดอกเบี้ยของเฟดส่งผลให้ตลาดทองคำมีความคึกคักเป็นอย่างมาก โดย Robert Minter ผู้อำนวยการด้านกลยุทธ์การลงทุนของ abrdn กล่าวว่าเป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นที่ราคาทองคำจะพุ่งทะลุ $3,000 ในรอบการผ่อนคลายนโยบายการเงินครั้งนี้ ความเห็นนี้สะท้อนให้เห็นถึงมุมมองเชิงบวกต่อตลาดทองคำในระยะยาว
“ในอดีต รอบการลดดอกเบี้ยมักนำไปสู่ความต้องการทองคำที่สูงขึ้นจากนักลงทุนและผู้ซื้อ ETF อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้ความต้องการจากธนาคารกลางก็อยู่ในระดับสูง เช่นเดียวกับความต้องการทองคำแท่งจากจีนและอินเดีย ซึ่งเป็นตลาดค้าปลีกทองคำที่ใหญ่ที่สุดสองแห่งของโลก” Minter กล่าว พร้อมเสริมว่าปัจจัยเหล่านี้อาจทำให้ราคาทองคำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต
อย่างไรก็ตาม Michael Brown นักยุทธศาสตร์วิจัยอาวุโสของ Pepperstone มองว่าการลดดอกเบี้ยครั้งนี้ “เกินความจำเป็นเมื่อพิจารณาจากข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุด” แม้จะสะท้อนให้เห็นถึงความกังวลที่เพิ่มขึ้นของผู้กำหนดนโยบายเกี่ยวกับความยั่งยืนของการ “Soft landing” หรือการชะลอตัวของเศรษฐกิจอย่างนุ่มนวล ความเห็นที่แตกต่างนี้แสดงให้เห็นถึงความไม่แน่นอนในการคาดการณ์ทิศทางเศรษฐกิจในอนาคต
Brown เสริมว่าเฟดยังคงมีเครื่องมือที่จะสนับสนุนเศรษฐกิจได้อย่างแข็งแกร่ง “ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ยังคงสูงกว่าระดับปกติประมาณ 200 จุดพื้นฐาน บวกกับการยุติมาตรการ Quantitative Tightening ที่น่าจะเกิดขึ้นก่อนสิ้นปี กล่องเครื่องมือของ FOMC ยังเต็มไปด้วยมาตรการสนับสนุนที่มีศักยภาพ” ความเห็นนี้ชี้ให้เห็นว่าเฟดยังมีความยืดหยุ่นในการดำเนินนโยบายการเงินเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเปลี่ยนแปลงในอนาคต
มุมมองของนักวิเคราะห์ต่อทิศทางนโยบายการเงินในอนาคต
Adam Button หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สกุลเงินของ Forexlive.com คาดการณ์ว่าเฟดอาจจะลดดอกเบี้ยลงอีก 0.25% ในการประชุมเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม “อย่างไรก็ตาม ผมคาดว่า Powell จะเน้นย้ำว่าเขาพร้อมที่จะดำเนินการอย่างแข็งขันมากขึ้นหากการจ้างงานหรือแนวโน้มเศรษฐกิจเลวร้ายลง” การคาดการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความยืดหยุ่นในการดำเนินนโยบายของเฟดที่พร้อมปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์
ด้าน Paul Ashworth หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำภูมิภาคอเมริกาเหนือ มองว่าการลดดอกเบี้ยครั้งนี้เป็น “การลดดอกเบี้ยแบบเข้มงวด 50 จุดพื้นฐาน” และคาดว่าเส้นทางการลดดอกเบี้ยในอนาคตอาจจะไม่ชันเท่าที่การลดดอกเบี้ยครั้งนี้บ่งชี้ เนื่องจากเศรษฐกิจคาดว่าจะยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง มุมมองนี้สะท้อนให้เห็นถึงความระมัดระวังของเฟดในการดำเนินนโยบายการเงิน
“โดยรวมแล้ว แม้จะมีการเริ่มต้นด้วยการลดดอกเบี้ยครั้งใหญ่ แต่หากเจ้าหน้าที่เฟดไม่กังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านลบต่อตลาดแรงงานมากขึ้น ดูเหมือนว่าเราจะเห็นอัตราการลดดอกเบี้ยที่ค่อนข้างระมัดระวังต่อจากนี้” Ashworth กล่าวปิดท้าย
วิเคราะห์กราฟทองวันนี้
ตลาดทองคำกำลังเผชิญกับแรงขายที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยราคาปัจจุบันอยู่ที่ $2,552 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความผันผวนที่ชัดเจนหลังจากที่ราคาทำจุดสูงสุดใหม่เมื่อไม่นานมานี้
เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มระยะสั้น เราจะเห็นว่าราคาทองคำได้เคลื่อนตัวลงมาต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ EMA 12 (สีแดง) และ EMA 26 (สีฟ้า) อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงแรงขายที่เพิ่มขึ้นและการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม ราคายังคงอยู่เหนือเส้น EMA 200 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแนวโน้มขาขึ้นในระยะยาวยังคงอยู่
การวิเคราะห์ RSI แสดงให้เห็นว่าตลาดปรับตัวลงจากโซน Overbought วิ่งลงสู่โซน 40 ซึ่งอาจนำไปสู่การฟื้นตัวในระยะสั้นได้ แต่ยังไม่เห็นสัญญาณการกลับตัวที่ชัดเจน
ในด้านแนวรับแนวต้าน สามารถระบุแนวรับสำคัญได้ที่ระดับ $2,545 และ $2,531 โดยหากราคาสามารถยืนเหนือแนวรับเหล่านี้ได้ อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นตัว ในทางกลับกัน แนวต้านสำคัญอยู่ที่ $2,563 และ $2,573 ซึ่งเป็นระดับที่ต้องจับตามองหากราคาเริ่มปรับตัวขึ้น
ในช่วง 24 ชั่วโมงข้างหน้า คาดว่าราคาทองคำจะยังคงอยู่ในช่วงของการปรับฐาน โดยอาจมีการทดสอบแนวรับที่ $2,545 ก่อนที่จะมีโอกาสฟื้นตัวกลับขึ้นไป อย่างไรก็ตาม หากราคาหลุดแนวรับนี้ลงมา อาจเห็นการปรับตัวลงต่อเนื่องไปที่แนวรับถัดไปที่ $2,531
แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง
$2,545
$2,531
$2,423
แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง
$2,563
$2,573
$2,589
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน