วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 24 ก.ย. 2567

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >     

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 24 กันยายน 2567 ราคาทองคำพุ่งทำจุดสูงสุดตลอดกาลอย่างต่อเนื่อง โดยทะยานแตะระดับ $2,634 ในวันจันทร์ที่ผ่านมา ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายน

ขณะที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐประจำภูมิภาคยอมรับว่าความเสี่ยงของตลาดแรงงานที่อ่อนแอลงเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม พวกเขายังคงต่อต้านการลดอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วขนาด 50 basis points โดยเปิดทางเลือกสำหรับการประชุมในอนาคตและส่งสัญญาณถึงแนวทางที่ค่อยเป็นค่อยไป

โดยที่ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในความขัดแย้งตะวันออกกลางระหว่างอิสราเอลและเฮซบอลลาห์อาจส่งผลกระทบต่อความเสี่ยงในตลาดและเพิ่มราคาทองคำ โดยกระทรวงกลาโหมสหรัฐประกาศว่าจะส่งทหารเพิ่มเติมไปยังตะวันออกกลางเนื่องจากความรุนแรงที่เพิ่มขึ้น

ตลาดทองคำยังคงแข็งแกร่งท่ามกลางข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ผสมผสาน

ตลาดทองคำยังคงปรับตัวขึ้น ขณะที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐยังคงผสมผสาน โดยภาคการผลิตหดตัวและภาคบริการยังคงทรงตัวค่อนข้างดี

S&P Global รายงานว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (Purchasing Managers Index หรือ PMI) ฉบับเร่งด่วนสำหรับภาคบริการลดลงเล็กน้อยสอดคล้องกับความคาดหมาย โดยลดลงเหลือ 55.4 ในเดือนกันยายน ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงมากนักจากการอ่านค่าในเดือนสิงหาคมที่ 55.7 รายงานระบุว่ากิจกรรมในภาคบริการลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบสองเดือน

อย่างไรก็ตาม PMI ภาคการผลิตของ S&P ลดลงเหลือ 47 จากการอ่านค่าในเดือนสิงหาคมที่ 47.9 ข้อมูลออกมาอ่อนแอกว่าที่คาด โดยตามการประมาณการณ์ฉันทามติ นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะเห็นการอ่านค่าที่ 48.6 รายงานระบุว่ากิจกรรมในภาคการผลิตลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือน

Chris Williamson หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ธุรกิจที่ S&P Global Market Intelligence กล่าวในรายงานว่า การขยายตัวของผลผลิตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนที่ส่งสัญญาณโดย PMI ในเดือนกันยายนสอดคล้องกับอัตราการเติบโตของ GDP ที่แข็งแกร่งที่ 2.2% ต่อปีในไตรมาสที่สาม แต่มีสัญญาณเตือนบางอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของการพึ่งพาภาคบริการสำหรับการเติบโต เนื่องจากการผลิตยังคงอยู่ในภาวะถดถอย และการลดลงที่น่ากังวลของความเชื่อมั่นทางธุรกิจ

Williamson เสริมว่า ดัชนีราคาของการสำรวจในขณะเดียวกันก็เป็นคำเตือนว่า แม้ PMI จะบ่งชี้ถึงการเสื่อมสภาพเพิ่มเติมของแนวโน้มการจ้างงานในเดือนกันยายน คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) อาจต้องดำเนินการอย่างระมัดระวังในการลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม ราคาที่เรียกเก็บสำหรับสินค้าและบริการทั้งสองกำลังเพิ่มขึ้นในอัตราที่เร็วที่สุดในรอบหกเดือน โดยต้นทุนปัจจัยการผลิตในภาคบริการ ซึ่งองค์ประกอบสำคัญคือค่าจ้างและเงินเดือนที่เพิ่มขึ้นในอัตราที่เร็วที่สุดในรอบหนึ่งปี

ผู้เชี่ยวชาญแนะ “ไม่ควรเดิมพันต่อต้านทองคำ” ท่ามกลางแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง

ธนาคารแคนาดาแห่งหนึ่งได้ระบุบทเรียนสำคัญว่า ไม่ควรเดิมพันสวนทางตลาดทองคำในสภาพแวดล้อมที่อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกกำลังมีแนวโน้มลดลงซึ่งนำโดยธนาคารกลางสหรัฐ  นักวิเคราะห์จาก TD Securities ประกาศว่าพวกเขากำลังถอนตัวจากสถานะ short ในทองคำที่เพิ่งเริ่มต้นขึ้น ธนาคารได้เตือนนักลงทุนว่าความเสี่ยงขาลงในทองคำกำลังเพิ่มขึ้น เนื่องจากสถานะการเก็งกำไรแบบ bullish ยังคงอยู่ในระดับสูงสุด

TD เริ่มการเทรดเมื่อสัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำเดือนธันวาคมซื้อขายที่ $2,533 โดยคาดว่าราคาจะลดลงมาที่ $2,300 เนื่องจากพวกเขาคาดการณ์ว่าเฟดจะส่งสัญญาณที่ระมัดระวังมากขึ้น อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์กล่าวว่า “แน่นอนว่านี่เป็นสถานะการณ์ที่แตกต่างจากความเห็นโดยรวมอย่างมาก แต่ในขณะที่กระแสเงินทุนที่เข้ามาในช่วงหลายวันที่ผ่านมาอยู่นอกเหนือการคาดการณ์ของเรา มันชัดเจนว่าการที่เฟดมีแนวโน้มต่ำในการดำเนินนโยบายผ่อนคลายอย่างมีนัยสำคัญในเศรษฐกิจที่อยู่ในสภาพดีกำลังดึงดูดเงินทุนเพิ่มเติมเข้าสู่ตลาดทองคำ”

TD ออกจากการเทรดเมื่อสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้นเป็น $2,54 ส่งผลให้เกิดการขาดทุน 4.4% ในสถานะ short

ผู้จัดการกองทุนชี้ “เฟดส่งสัญญาณชัดเจน” ทองคำพร้อมทะลุ 3,000 ดอลลาร์

Ryan McIntyre ผู้จัดการที่ Sprott Inc. กล่าวว่า Jerome Powell ประธานเฟดกำลังเดินบนเส้นทางที่แคบมากระหว่างการสนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐและการจัดการราคาสินทรัพย์ที่สูงเกินไป แม้ว่า Powell จะส่งสัญญาณว่าธนาคารกลางไม่ได้รีบร้อนที่จะลดอัตราดอกเบี้ย แต่ McIntyre กล่าวว่านักลงทุนควรให้ความสนใจกับการกระทำของเฟดมากกว่าคำพูดของ Powell

“เป็นที่ชัดเจนด้วยการลดอัตราดอกเบี้ย 50 basis points เฟดไม่ต้องการถูกมองว่าล้าหลัง” McIntyre เสริมว่ามีปัญหาที่ใหญ่กว่านโยบายการเงินของเฟด เขาคาดว่าธนาคารกลางจะยังคงมุ่งเน้นที่การสนับสนุนเศรษฐกิจ แม้ว่าเงินเฟ้อจะยังคงสูงอย่างดื้อรั้นก็ตาม

“หนี้สาธารณะของสหรัฐยังคงเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดต่อเศรษฐกิจ สิ่งสุดท้ายที่เฟดต้องการคือภาวะถดถอย เพราะนั่นจะทำให้การขาดดุลเพิ่มขึ้นอย่างมาก และนี่เป็นสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์แบบสำหรับทองคำ เนื่องจากเฟดมีแนวโน้มที่จะลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างชัดเจน ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่ง่ายที่สุดในการถือครองเพื่อปกป้องความมั่งคั่งและเงินทุนของคุณ”

McIntyre คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะแย่ลงก่อนที่จะดีขึ้น โดยชี้ให้เห็นว่าต้องใช้เวลาก่อนที่เศรษฐกิจจะรู้สึกถึงผลกระทบของวงจรการผ่อนคลายใหม่นี้ เขายังระบุว่าแม้จะมีการเคลื่อนไหว 50 basis points นี้ อัตราดอกเบี้ยก็ยังคงจำกัดอย่างมีนัยสำคัญ

“มีการประเมินมูลค่าสินทรัพย์ที่สูงเกินไปในหลายหมวดหมู่ และผมคิดว่าทองคำเป็นทางเลือกที่สมเหตุสมผล แม้จะมีการลดอัตราดอกเบี้ย เศรษฐกิจก็ยังไม่พ้นจากอันตราย ผมรับประกันได้ว่าจะมีสิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นที่เรายังไม่ได้พูดถึงในวันนี้”

McIntyre ย้ำว่าหนี้สาธารณะยังคงเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดต่อเศรษฐกิจโลก เพราะหากมองตลาดการเงินในระดับประเทศ เนื่องจากระดับหนี้สูงทั่วโลก ทองคำเป็นทางเลือกเดียวเพราะเป็นสินทรัพย์เดียวที่ถูกมองว่าเป็นสกุลเงินโลก

เขาชี้ให้เห็นว่าสหรัฐอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่มั่นคง เนื่องจากรัฐบาลคาดว่าจะต้องใช้เงินมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์เพียงเพื่อชำระหนี้ ภัยคุกคามต่อเศรษฐกิจเกิดขึ้นเมื่ออัตราส่วนของการชำระหนี้ต่อ GDP สูงกว่าการคาดการณ์การเติบโต

ตามการคาดการณ์ทางเศรษฐกิจที่ปรับปรุงใหม่ของเฟดคาดว่า GDP ของสหรัฐจะเติบโต 2% ในช่วงสามปีข้างหน้า ในขณะที่การชำระหนี้คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของ GDP คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 3.1% ในปีนี้ ตามประมาณการของสำนักงานงบประมาณรัฐสภา

“เราไม่สามารถโตออกจากสถานะการคลังนี้ได้ และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมทุกเส้นทางจึงนำไปสู่ทองคำ และ ในที่สุด นักลงทุนส่วนใหญ่จะหาทางไปสู่ทองคำ และทองคำจะทะลุ $3,000 อย่างแน่นอน ซึ่งเป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้น” McIntyre ปิดท้าย

ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ราคาทองคำแสดงการเคลื่อนไหวแบบพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว สะท้อนถึงแรงซื้อที่เข้ามาอย่างหนาแน่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังราคาทะลุผ่านแนวต้านสำคัญบริเวณ $2,600 ขึ้นมา ทำให้เกิดการเร่งตัวของราคาอย่างมีนัยสำคัญ

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องระวังที่เริ่มเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ คือดัชนี RSI ซึ่งมีการสร้าง Bearish Divergence กับราคา โดย RSI ไม่สามารถสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้ ในขณะที่ราคากลับทำจุดสูงสุดใหม่ สัญญาณนี้อาจบ่งชี้ถึงการอ่อนแรงลงของแรงซื้อ และอาจนำไปสู่การพักฐานในระยะสั้น

ระดับแนวรับสำคัญที่ควรจับตามอง ได้แก่ $2,620, $2,600 และ $2,589 ตามลำดับ หากราคาสามารถยืนเหนือแนวรับเหล่านี้ได้ จะเป็นการยืนยันความแข็งแกร่งของแนวโน้มขาขึ้น

ส่วนแนวต้านสำคัญที่ต้องติดตาม คือระดับ $2,635, $2,640 และ $2,650 ตามลำดับ การทะลุผ่านแนวต้านเหล่านี้จะเป็นสัญญาณบวกเพิ่มเติม และอาจนำไปสู่การปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง

โดยสรุป แนวโน้มราคาทองคำใน 24 ชั่วโมงข้างหน้ายังคงเป็นบวก แต่อาจเผชิญกับแรงขายทำกำไรระยะสั้นเนื่องจากราคาปรับตัวขึ้นมาเร็วและแรง นักลงทุนควรติดตามการเคลื่อนไหวของราคาบริเวณแนวรับและแนวต้านสำคัญอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากราคาสามารถยืนเหนือแนวรับได้อย่างมั่นคง อาจเป็นโอกาสในการเข้าซื้อเพื่อทำกำไรระยะสั้น แต่ควรระมัดระวังการพักฐานที่อาจเกิดขึ้นหากราคาไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้

แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $2,620

• $2,600

• $2,589

แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $2,635

• $2,640

• $2,650