วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 17 ก.ค. 2567
ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 17 กรกฏาคม 2567 ราคาทองคำพุ่งทะยานสู่จุดสูงสุดใหม่ตลอดกาลที่ 2,480 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ในขณะที่เขียนบทความนี้ ท่ามกลางการคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะเริ่มวงจรการผ่อนคลายนโยบายการเงินในเดือนกันยายน นอกจากนี้ โอกาสที่อดีตประธานาธิบดี Trump จะชนะการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายนก็เป็นอีกปัจจัยหนุนราคาทองคำให้เพิ่มขึ้นกว่า 1.9% ในวันที่ผ่านมา
ปัจจัยหนุนราคาทองคำทะยานสู่จุดสูงสุดใหม่
ตัวเลขเงินเฟ้อผู้บริโภค (Consumer Price Index หรือ CPI) ที่ต่ำกว่าคาดในสัปดาห์ที่ผ่านมา ผลักดันให้ราคาโลหะมีค่าสูงขึ้น ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายของเฟดเครื่องมือ CME FedWatch ซึ่งใช้คำนวณความน่าจะเป็นของการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟด แสดงให้เห็นว่าโอกาสในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 25 basis point ในเดือนกันยายนอยู่ที่ 100% โดยมีนักเศรษฐศาสตร์ส่วนน้อยที่คาดการณ์ว่าจะมีการผ่อนคลาย 50 basis point
นอกจากนี้ ความเคลื่อนไหวทางการเมืองในช่วงสุดสัปดาห์ที่เกี่ยวข้องกับอดีตประธานาธิบดี Trump ก็เป็นอีกปัจจัยหนุนราคาทองคำ การดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของ Trump มีแนวโน้มที่จะเพิ่มภาษี ซึ่งอาจส่งผลให้งบประมาณขาดดุลของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นและสร้างแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ นโยบายเหล่านี้มักส่งผลให้นักลงทุนหันมาสนใจทองคำมากขึ้น เนื่องจากทองคำถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่ช่วยป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อได้ดี
ขณะที่วันก่อน Jerome Powell ประธานเฟดได้ปรากฏตัวที่ Economic Club of Washington โดยแสดงความเห็นว่าเศรษฐกิจมีผลการดำเนินงานที่ดี และเสริมว่าเฟดจะลดต้นทุนการกู้ยืมเมื่อมั่นใจว่าอัตราเงินเฟ้อกำลังเคลื่อนไปสู่เป้าหมายที่ 2% คำกล่าวนี้สะท้อนให้เห็นถึงท่าทีที่ระมัดระวังของเฟดในการดำเนินนโยบายการเงิน โดยพยายามรักษาสมดุลระหว่างการควบคุมเงินเฟ้อและการสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ขณะที่ล่าสุดในด้านข้อมูลเศรษฐกิจ สำนักงานสำมะโนประชากรสหรัฐฯ (U.S. Census Bureau) รายงานว่ายอดค้าปลีก (Retail Sales) ในเดือนมิถุนายนไม่เปลี่ยนแปลงตามที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม หากไม่รวมยอดขายรถยนต์ ยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างมากเกินกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ข้อมูลนี้แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคในสหรัฐฯ ยังคงมีกำลังซื้อและความเชื่อมั่น แม้จะเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
แนวโน้มตลาดทองคำและการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ตลาดทองคำพุ่งสู่จุดสูงสุดตลอดกาล ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่องของราคาทองคำแม้ว่าผู้บริโภคในสหรัฐฯ จะแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นโดยมีการซื้อสินค้ามากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนที่ผ่านมา
Paul Ashworth หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์อเมริกาเหนือที่ Capital Economics ชี้ว่าตัวเลขยอดค้าปลีกเดือนมิถุนายนสร้างโอกาสให้เศรษฐกิจฟื้นตัวในไตรมาสที่สาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งของยอดขายในกลุ่มควบคุม (control group) ซึ่งเพิ่มขึ้น 0.9% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า สูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 0.2% ข้อมูลนี้ช่วยบรรเทาความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ของผู้บริโภคท่ามกลางการลดลงของความเชื่อมั่น
Robert Minter ผู้อำนวยการด้านกลยุทธ์การลงทุนที่ abrdn กล่าวว่า คำให้การของประธานเฟด Jerome Powell ต่อรัฐสภาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วดูเหมือนจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ตลาดรอคอย โดย Powell ได้กล่าวว่าความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจในปัจจุบันมีความสมดุลมากขึ้น และเงินเฟ้อที่สูงไม่ใช่ความเสี่ยงเพียงอย่างเดียวที่เฟดต้องเผชิญ
Minter ชี้ว่าหนี้ผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นในสภาพแวดล้อมที่อัตราดอกเบี้ยสูงอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงที่สำคัญต่อเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเงินกู้ซื้อรถยนต์และอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตที่สูงขึ้น สถานการณ์นี้อาจนำไปสู่ความเครียดในตลาดแรงงานและปัญหาทางเศรษฐกิจที่รุนแรงขึ้น ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้เฟดอาจพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน
Minter คาดการณ์ว่าความต้องการของนักลงทุนจะผลักดันราคาทองคำให้สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเขาไม่ได้มุ่งเน้นไปที่เป้าหมายราคาที่เฉพาะเจาะจง แต่ให้ความสำคัญกับแนวโน้มและศักยภาพการเติบโต เขาชี้ให้เห็นว่าการถือครองในผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่อ้างอิงกับทองคำ (ETPs) ได้ลดลงสู่ระดับของปี 2019 โดยการซื้อทั้งหมดในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 ได้ถูกเปลี่ยนแปลงไปในช่วงสองปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม แนวโน้มนี้กำลังเริ่มกลับทิศทางและคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเมื่อเฟดเริ่มวงจรการผ่อนคลายนโยบายการเงิน
บทบาทของ ETF ทองคำและธนาคารกลาง
Joe Cavatoni หัวหน้านักกลยุทธ์การตลาดสำหรับอเมริกาเหนือของ World Gold Council (WGC) กล่าวว่า ETF (Exchange-Traded Funds) ทองคำทั่วโลกกำลังเริ่มตอบสนองต่อความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ แต่ปัจจัยขับเคลื่อนหลักของราคาทองคำจะเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากเฟด Cavatoni เน้นย้ำว่าความรู้สึกจากเฟดที่ว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นนั้น อาจเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่จะดึงดูดนักลงทุนตะวันตกกลับเข้าสู่ตลาดทองคำ
Cavatoni ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของอุปสงค์จากเอเชีย โดยเฉพาะจีน ซึ่งการซื้อของธนาคารกลางและความสนใจของนักลงทุนในภูมิภาคนี้เป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนราคาทองคำ เขากล่าวว่า ด้วยกิจกรรมของธนาคารกลางและการเติบโตของนักลงทุนตะวันออก ทุกสายตาจับจ้องไปที่พื้นที่นั้นของโลกเพื่อดูว่าจะยังคงรักษาระดับราคาไว้ได้หรือไม่ นั่นคือสิ่งที่ช่วยพยุงราคาและรักษาระดับราคาไว้
อย่างไรก็ตาม Cavatoni ชี้ให้เห็นถึงความท้าทายในตลาดทองคำจีน โดยเฉพาะในภาคเครื่องประดับ ซึ่งเป็นแหล่งอุปสงค์ที่สำคัญ เขากล่าวว่า เครื่องประดับเป็นองค์ประกอบสำคัญของแหล่งที่มาของการบริโภคและอุปสงค์ทั้งในอินเดียและจีน ซึ่งทำให้ประหลาดใจในทางบวกในช่วงต้นปีด้วยราคาทองคำที่ทรงตัว แต่เมื่อราคาสูงขึ้นและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคโดยเฉพาะในจีนเริ่มเป็นที่สงสัย คำถามคือจะแรงพอที่จะรักษาระดับอุปสงค์ของเครื่องประดับได้หรือไม่
ทั้งนี้ WGC ไม่คาดว่าจะมีธนาคารกลางใดเริ่มขายทองคำสำรองของตน แม้ในสถานการณ์ที่ราคาทองคำอยู่ในระดับสูงสุดตลอดกาล Cavatoni กล่าวว่า ไม่เห็นสภาพแวดล้อมที่ธนาคารกลางจะเลิกถือหรือขายสถานะทองคำของพวกเขา ตรงกันข้าม มันเป็นสภาพแวดล้อมที่พวกเขาจะยังคงประเมินและเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวังในการถือครองเพิ่มเติมในพอร์ตการลงทุนสำรอง นี่เป็นแนวโน้มของตลาดเกิดใหม่และดูเหมือนว่าจะยังคงอยู่ต่อไป
ผลกระทบของความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ต่อราคาทองคำ
Cavatoni แสดงความเห็นเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งเขามองว่ามีบทบาทรองลงมาจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในฐานะแรงขับเคลื่อนหลักของการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ เขากล่าวว่า “เรากำลังพูดถึงสิ่งที่จะทำให้นักลงทุนตะวันตกกลับมาลงทุนในทองคำ ซึ่งความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์สามารถร้อนแรงหรือผ่อนคลายลงได้ แต่ตอนนี้เราต้องเน้นไปที่นโยบายการเงินจากเฟด โดยในยุโรปอาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยโดย ECB อีกทั้งมีความไม่แน่นอนทางการเมืองในการเลือกตั้ง และคำถามที่ยังคงอยู่เกี่ยวกับวิธีที่ยุโรปจะสนับสนุนยูเครนต่อไปหรือไม่ ทั้งหมดนี้นำไปสู่การไหลเข้าประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์สู่ ETF ยุโรปในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา”
วิเคราะห์กราฟทองวันนี้
วิเคราะห์กราฟทองคำประจำวัน ราคาทองคำ Gold Spot เทียบกับดอลลาร์สหรัฐ (XAU/USD) ในกรอบเวลา 4 ชั่วโมง
ราคาทองคำกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นที่แข็งแกร่ง โดยล่าสุดราคาได้พุ่งทะลุแนวต้านสำคัญหลายระดับ ลักษณะกราฟแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มขาขึ้นที่ชัดเจน โดยราคาเคลื่อนตัวอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ทั้ง EMA12, EMA26 และ EMA200 ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้น กลาง
โดยในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ราคาทองคำได้พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยทะลุผ่านแนวต้านสำคัญที่ $2,441 และ $2,450 ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นแนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง หากราคาย่อตัวลงมา
อย่างไรก็ตาม ดัชนี RSI ได้พุ่งขึ้นสู่ระดับ Overbought ที่เหนือ 80 ซึ่งบ่งชี้ว่าราคาอาจมีการพักฐานหรือปรับตัวลงในระยะสั้น นักลงทุนควรระมัดระวังการเข้าซื้อที่ราคาปัจจุบัน และอาจรอจังหวะราคาย่อตัวลงมาที่แนวรับก่อนพิจารณาเข้าซื้อ
แนวรับสำคัญที่ต้องจับตาคือ
$2,450 (แนวรับแรก)
$2,441 (แนวรับของ EMA 12 )
$2,422 (แนวรับของ EMA 26)
แนวต้านสำคัญที่ต้องติดตามคือ
$2,480 (แนวต้านจิตวิทยา)
$2,490 (แนวต้านถัดไป)
$2,500 (แนวต้านสำคัญ)
สำหรับแนวโน้มใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า คาดว่าราคาทองคำจะยังคงอยู่ในทิศทางขาขึ้น แต่อาจมีการพักฐานหรือปรับตัวลงในระยะสั้นเพื่อคลาย Overbought ก่อนที่จะปรับตัวขึ้นต่อ นักลงทุนควรติดตามแนวรับสำคัญที่ $2,450 และ $2,441 หากราคาสามารถยืนเหนือระดับนี้ได้ จะเป็นสัญญาณบวกสำหรับการปรับตัวขึ้นต่อไปสู่แนวต้านถัดไปที่ $2,490 และ $2,500
อย่างไรก็ตาม หากราคาหลุดแนวรับสำคัญที่ $2,441 ลงมา อาจเป็นสัญญาณของการอ่อนตัวลงในระยะสั้น และควรระวังการปรับฐานลงสู่แนวรับถัดไปที่ $2,422
แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง
2,450 ดอลลาร์
2,441 ดอลลาร์
2,422 ดอลลาร์
แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง
2,480 ดอลลาร์
2,490 ดอลลาร์
2,500 ดอลลาร์
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน