วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 8 พ.ย. 2566

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >      

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

Gold Spot ในปัจจุบันอยู่ที่บริเวณ $1,968 ขณะที่ Gold Futures อยู่ที่บริเวณ $1,974.15

ทองคำร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ในวันที่ผ่านมา เนื่องจากการฟื้นตัวของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ รวมถึงการขยับขึ้นของสินทรัพย์เสี่ยงต่างๆ สร้างแรงกดดันให้ทองคำ ในขณะที่ดูเหมือนตลาดจะซึบซัมความตึงเครียดในตะวันออกกลาง และย้ายสภาพคล่องออกจากสินทรัพย์ปลอดภัย

ในช่วงที่ผ่านมา ราคาทองคำดีดตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่าจะเจอปัจจัยของเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น การขายพันธบัตรที่กำลังดำเนินอยู่ และปัจจัยต่างๆ เช่น ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ความเสี่ยงจากภาวะถดถอย และนโยบายของ Fed 

แต่ตอนนี้ มีโอกาสที่ราคาทองคำจะร่วงลงในเส้นทางที่แตกต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ตามรายงานแนวโน้มจาก นักวิเคราะห์จาก WisdomTree

“สงครามระหว่างอิสราเอลและฉนวนกาซาได้ผลักดันให้หลายคนค้นหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และทองคำก็เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ” นักวิเคราะห์กล่าว “ทองคำทรงตัวได้ค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับพันธบัตรและค่าเงินดอลลาร์ แต่ตอนนี้ ดูเหมือนกำลังสูญเสียโมเมนตัม โดยราคาค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ DMA50 วันตกลงต่ำกว่า DMA200 ในช่วงสิ้นเดือนกันยายน”

นี่คือสิ่งที่นักวิเคราะห์ทางเทคนิคเรียกว่า “Death Cross” พวกเขาตั้งข้อสังเกต แต่ถึงแม้จะมีชื่อที่เป็นลางไม่ดี แต่ในทางเทคนิคนั้นมักจะบ่งบอกถึงราคาฐานใหม่ 

“แท้จริงแล้ว ทองคำได้ฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่าพันธบัตรและสกุลเงินจะทวีความรุนแรงมากขึ้น” พวกเขากล่าว

“เวลาที่ดีที่สุดที่จะมีทรัพย์สินประกันภัย คือก่อนที่เหตุการณ์จะเกิดขึ้น ทองคำจึงเป็นสินทรัพย์เชิงกลยุทธ์ที่มีคุณค่า” นักวิเคราะห์กล่าว 

พวกเขายังชี้ให้เห็นด้วยว่าในขณะที่ความต้องการทองคำของสถาบันลดลงเป็นเวลาหลายเดือน ความต้องการค้าปลีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจีนและตุรกีกลับแข็งแกร่งมาก

นักวิเคราะห์จึงสำรวจความสัมพันธ์ระหว่างภูมิรัฐศาสตร์และทองคำ “ทองคำยังถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ซึ่งหมายความว่าในช่วงที่มีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจหรือความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้น ในอดีตนักลงทุนได้หันไปหาโลหะมีค่าเพื่อปกป้องความเสี่ยง ซึ่งส่งผลให้ราคาสูงขึ้น” รายงานกล่าว

รายงานเน้นย้ำว่าความวุ่นวายในปัจจุบันในตะวันออกกลาง แม้จะไม่ทราบระยะเวลาและความรุนแรง แต่ในอดีตมองว่าทองคำเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงอันมีค่า

จากนั้นพวกเขาก็มองทองคำผ่านมุมมองของตลาดตราสารหนี้ 

“ตลาดคาดหวังว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ Fed จะสูงขึ้นอีก” พวกเขากล่าว 

“นั่นได้ผลักดันให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2007 และอัตราผลตอบแทนที่แท้จริงจะสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2008”

นักวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตว่าในมุมมองที่ผ่านมา พวกเขาให้ความเห็นเกี่ยวกับการกลับตัวของเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรและอำนาจในการคาดการณ์ของภาวะถดถอย 

“ทองคำมีแนวโน้มที่จะดำเนินการอย่างแข็งแกร่งในช่วงถดถอย ความล่าช้าระหว่างการผกผันและภาวะเศรษฐกิจถดถอยอาจยาวนานและมักจะนานกว่าหนึ่งปี” พวกเขากล่าว พร้อมเสริมว่าตลาดมีความกระวนกระวายใจและแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น

เมื่อพิจารณาถึงผลกระทบของการซื้อของธนาคารกลาง พวกเขาตั้งข้อสังเกตว่าหลังจากแตะระดับสูงสุดตลอดกาลในปี 2022 ความต้องการทองคำของธนาคารกลางยังคงรักษาโมเมนตัมที่แข็งแกร่งไว้ได้

“ระหว่างเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม 2023 ธนาคารกลางของตุรกีขายทองคำในตลาดสาธารณะในประเทศ เพื่อตอบสนองความต้องการทองคำแท่ง เหรียญ และเครื่องประดับที่แข็งแกร่ง หลังจากการสั่งห้ามนำเข้าทองคำแท่งชั่วคราวบางส่วน” รายงานระบุ แต่ตั้งข้อสังเกตว่าธนาคารกลางตุรกีกลับมามีการซื้อที่แข็งแกร่งอีกครั้งและมีการซื้อติดต่อกันสามเดือนแล้ว

พวกเขายังชี้ให้เห็นว่าธนาคารประชาชนจีนรายงานการซื้อทองคำเป็นเวลา 10 เดือนติดต่อกันจำนวน 217 ตันระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2022 ถึงเดือนสิงหาคม 2023

จากนั้น นักวิเคราะห์จึงมองย้อนกลับไปที่ราคาทองคำโดยใช้แบบจำลองทองคำเชิงปริมาณของ WisdomTree โดยสังเกตว่าความแข็งแกร่งของราคาทองคำในช่วงที่ผ่านมานั้นเกินการคาดการณ์ของแบบจำลอง “แม้จะมีการขายพันธบัตร แต่อัตราเงินเฟ้อที่เป็นบวกและเงินดอลลาร์สหรัฐที่ยังคงอ่อนค่ากว่าปีที่แล้ว แม้ว่าจะแข็งค่าขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ต่างก็ช่วยสนับสนุนทองคำได้” รายงานระบุ

ผลวิเคราะห์พบว่า ณ วันที่ 20 ต.ค. 2023 ราคาทองคำแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้ 

ทองคำมีมูลค่าเพิ่มขึ้นมากกว่า 160 ดอลลาร์ในเดือนที่แล้ว เนื่องจากความตึงเครียดในตะวันออกกลางยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องภายหลังการโจมตีของกลุ่มฮามาสในอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 

อย่างไรก็ตาม หากมีผู้เล่นคนที่สามเข้ามามีส่วนร่วมในความขัดแย้ง ราคาทองคำจะมีการเคลื่อนไหวที่สูงขึ้นอย่างมาก ตามที่ Rich Checkan ประธานและ COO ของ Asset Strategies International กล่าว

ทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์จากระดับ 1,840 ดอลลาร์ หลังสงครามอิสราเอล-ฮามาส โดยค่าพรีเมียมจากสงครามภูมิรัฐศาสตร์เป็นส่วนหนึ่งที่ผลักดันการเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม นี่อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นหากความขัดแย้งลุกลามและทำให้ประเทศอื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง Checkan กล่าว

“หากหน่วยงานของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องโดยตรงในความขัดแย้ง ผมคิดว่าทองคำจะพุ่งขึ้นอย่างมาก”  Checkan กล่าว “เราอาจเห็นราคา 2,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ผมไม่เห็นว่าราคาจะสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เว้นแต่ผู้มีบทบาทของรัฐรายอื่นจะเข้ามาเกี่ยวข้องโดยตรง”

ธนาคารโลกได้ออกคำเตือนว่าหากความตึงเครียดในตะวันออกกลางยังคงเพิ่มขึ้น ราคาน้ำมันอาจพุ่งขึ้นถึง 150 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ภายใต้สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดเหตุการณ์หนึ่ง 

“ความขัดแย้งครั้งล่าสุดในตะวันออกกลางเกิดขึ้นพร้อมกับความตื่นตระหนกครั้งใหญ่ที่สุดต่อตลาดสินค้าโภคภัณฑ์นับตั้งแต่ทศวรรษ 1970 นั่นคือสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน” Indermit Gill หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารโลก กล่าว “นั่นมีผลกระทบร้ายแรงต่อเศรษฐกิจโลกที่ยังคงมีอยู่จนถึงทุกวันนี้”

ยังมีผลกระทบจาก Fed ที่ยังไม่เกิดขึ้น และยังมีสาเหตุที่สหรัฐฯ ไม่สามารถชำระหนี้ได้

หลังจากคงอัตราดอกเบี้ยไว้เป็นการประชุมครั้งที่สองติดต่อกัน ธนาคารกลางสหรัฐก็ไม่สามารถขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้อีก Checkan กล่าว

“รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่สามารถชำระหนี้ได้ มีหนี้อยู่ที่ 33.5 ล้านล้านดอลลาร์ พวกเขาไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ยสำหรับสิ่งนั้นได้ในขณะนี้ ประธาน Fed Jerome Powell หวังว่าเขาจะพูดเรื่องยาก ๆ ได้นานพอ แต่ผมไม่คิดว่าเขาจะทำได้ และเขาไม่สามารถทำให้เงินเฟ้ออยู่ภายใต้การควบคุมได้ ณ จุดนี้” เขากล่าว 

“Fed ทำลายงบดุลของธนาคาร และตอนนี้พวกเขากำลังทำลายการเงินของชนชั้นกลาง” Checkan กล่าว 

Fed ได้เปลี่ยนวิธีจัดหมวดหมู่การขาดทุน แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ใช่การขาดทุนที่แท้จริง

ขณะที่แรงกดดันทางเศรษฐกิจทำให้นักลงทุนบางส่วนขายทองคำ

ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่สูงและหนี้บัตรเครดิตก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน Checkan ชี้ให้เห็นว่าผู้บริโภคเริ่มอ่อนแอลง และผู้คนต่างหันไปขายทองคำในระดับที่สูงขึ้นเพื่อหาเงินสำหรับความต้องการในระยะสั้น

“สิ่งที่เราเริ่มเห็นคือนักลงทุนชนชั้นกลางขายทองคำ ซึ่งเป็นสินทรัพย์สภาพคล่อง พวกเขาไม่ได้ขายออกทั้งหมด แต่ขายออกได้มากพอที่จะครอบคลุมความต้องการในระยะสั้น” Checkan ชี้ให้เห็น

จากข้อมูลของสภาทองคำโลก ความต้องการทองคำแท่งและเหรียญกษาปณ์ลดลง 14% ในไตรมาสที่สามของปีนี้ Checkan กล่าวเสริมว่าสองนี้สะท้อนถึงสิ่งที่ชนชั้นกลางในอเมริกาทำกับการลงทุนทองคำของพวกเขา

ขณะที่ทองคำทรงตัวอยู่ที่ระดับนี้ได้เนื่องจากความคาดหวังว่า Fed ได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยเสร็จแล้ว และ “ยิ่งมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในการคาดการณ์เร็วเท่าไร ทองคำก็จะยิ่งดีขึ้นเท่านั้น” Everett Millman หัวหน้านักวิเคราะห์ตลาดของ Gainesville Coins กล่าว 

อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงจะช่วยกระตุ้นความสนใจของทองคำ ขณะที่ตลาดมุ่งเน้นไปที่คำปราศรัยของประธาน Jerome Powell และเจ้าหน้าที่ Fed คนอื่นๆ ที่มีกำหนดจะแสดงความคิดเห็นในสัปดาห์นี้

ราคาทองคำปรับตัวมาทดสอบแนวรับในช่วงโซนของ EMA 12 และ 26 ตามคาดการณ์ แต่แรงขายดูจะยังไม่หมด ทำให้มีโอกาสที่ราคาทองคำจะปรับตัวลงต่อได้

ปัจจุบันราคากำลังยื้ออยู่ในช่วงกรอบของ EMA 12 , 26 และเป็นบริเวณ Fibonacci  23.60%

โดยในกราฟระดับ 4 ชั่วโมง RSI ยังคงมาไม่ถึงโซน Oversold และยังไม่มีสัญญาณของการขัดแย้งของราคากับโมเมนตัม ซึ่งทำให้มีโอกาสที่ราคาจะยังไม่หยุดการปรับฐาน

แนวรับในวันนี้คือบริเวณ Fibonacci ซึ่งจะอยู่ที่ $1,962 ขณะที่แนวรับถัดไปจะอยู่ที่ $1,950

ในด้านของแนวต้านนั้น ปัจจุบัน แนวรับของ EMA 12 วันก่อนได้เปลี่ยนมาเป็นแนวต้านในวันนี้ ซึ่งจะอยู่ที่บริเวณ $1,973 - $1,978

กราฟทองคำ ระดับ 4 ชั่วโมง

แนวรับ ในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ $1,962 - $1,950

แนวต้าน ในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ $1,973 - $1,978