วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 10 ธ.ค. 2567
ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 10 ธันวาคม 2567 ราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา โดยได้แรงหนุนจากสถานะการเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคตะวันออกกลางภายหลังการล่มสลายของรัฐบาล Bashar al-Assad ในซีเรีย นอกจากนี้ ธนาคารกลางจีน (The People's Bank of China) ได้ประกาศในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าได้กลับมาซื้อทองคำอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายนหลังจากที่หยุดพักไป 6 เดือน ทางด้านทุนสำรองทองคำของจีนได้เพิ่มขึ้น 160,000 ออนซ์ เป็น 72.96 ล้านออนซ์ในเดือนพฤศจิกายน จากระดับ 72.80 ล้านออนซ์ในเดือนก่อนหน้า การเพิ่มขึ้นนี้ได้กระตุ้นความคาดหวังว่าราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นต่อไป และน่าจะช่วยสนับสนุนอุปสงค์ของโลหะมีค่านี้
ทางด้านข้อมูลเศรษฐกิจจากสหรัฐฯ ที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์แสดงให้เห็นว่าตลาดแรงงานของประเทศยังคงแข็งแกร่ง แต่อัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้นได้ยืนยันความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 25 basis points ในสัปดาห์หน้า ปัจจัยนี้ รวมถึงความเสี่ยงในตลาดที่อยู่ในระดับต่ำ ส่งผลให้การแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ มีข้อจำกัด
นอกจากนี้ ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm Payrolls) เมื่อวันศุกร์ก็แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ เพิ่มการจ้างงานใหม่ 227,000 ตำแหน่งในเดือนพฤศจิกายน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 200,000 ตำแหน่ง
อย่างไรก็ตาม อัตราการว่างงานได้เพิ่มขึ้นเป็น 4.2% จาก 4.1% ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งยังคงรักษาความหวังเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed ในเดือนธันวาคมเอาไว้ ข้อมูลจาก CME Group's Fed Watch แสดงให้เห็นว่ามีโอกาส 87% ที่ Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงหนึ่งในสี่จุดในสัปดาห์หน้า เพิ่มขึ้นจากน้อยกว่า 70% ในสัปดาห์ที่แล้ว อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้นในวันจันทร์หลังจากที่ลดลงประมาณ 20 basis points ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งได้หักล้างผลกระทบเชิงบวกจากนโยบายการค้าของ Trump และเพิ่มแรงกดดันต่อดอลลาร์สหรัฐฯ
นักวิเคราะห์ชี้ทองคำส่งสัญญาณผสม แต่ CPI และการตัดสินใจของ ECB อาจเป็นตัวเร่งให้ราคาทะลุกรอบ
Fawad Razaqzada นักวิเคราะห์การตลาดจาก StoneX Group ได้ให้ความเห็นว่า มุมมองระยะสั้นของราคาทองคำกำลังส่งสัญญาณผสม โดยมีแรงต้านที่แข็งแกร่งที่ระดับสำคัญ แต่ข้อมูล Consumer Price Index (CPI) และการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในสัปดาห์นี้อาจเป็นตัวเร่งที่ทำให้ราคาทองคำหลุดออกจากกรอบการซื้อขายที่จำกัด
Razaqzada ระบุว่า ดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งและความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ยังคงกดดันราคาทองคำอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สัญญาณทางเทคนิคแนะนำให้ระมัดระวัง ขณะที่การตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลางที่สำคัญและข้อมูลเงินเฟ้อ CPI และ PPI ของสหรัฐฯ จะเป็นประเด็นเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ ในขณะที่จีนกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 2025 ผู้นำระดับสูงของจีนได้ประกาศว่าจะใช้กลยุทธ์ 'moderately loose' ในปีหน้า ซึ่งเป็นสัญญาณของการผ่อนคลายนโยบายการเงินที่มากขึ้น และน่าจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนที่กำลังรอคอยมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม นอกจากนี้ ECB จะกำหนดอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้เป็นครั้งแรกหลังจากที่รัฐบาลในปารีสและเบอร์ลินต่างล้มเหลวในการเจรจาเรื่องงบประมาณ
ECB ธนาคารกลางแคนาดา และธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ต่างมีแนวโน้มที่จะผ่อนคลายนโยบายการเงินในสัปดาห์นี้ หากเราได้ยินสัญญาณที่ผ่อนคลายมากกว่าที่คาดจากธนาคารกลางเหล่านี้ ก็อาจช่วยสนับสนุนสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนต่ำหรือไม่มีผลตอบแทน เช่น ทองคำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ยังคงอยู่ในระดับสูง
แม้ว่าราคาทองคำจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบ 1% ก่อนหน้านี้แต่ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบการซื้อขายที่มีมาตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมา สภาวะการเคลื่อนไหวในกรอบจำกัดนี้เกิดขึ้นหลังจากการปรับตัวลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงปลายเดือนตุลาคม การปรับตัวลงนี้ได้ยุติการปรับตัวขึ้นที่ต่อเนื่องกันมาเก้าเดือน ทำให้เดือนพฤศจิกายนปิดในแดนลบ นักลงทุนจำนวนมากอาจกำลังรอการปรับฐานที่ลึกกว่านี้ก่อนที่จะกลับเข้าสู่ตลาด ส่งผลให้เกิดความรู้สึกค่อนข้างเป็นลบในการคาดการณ์ราคาทองคำระยะสั้น ขณะที่ความสนใจหันไปที่รายงาน CPI ของสหรัฐฯ ที่กำลังจะมาถึงและการประชุม Fed ครั้งสุดท้ายของปี การเคลื่อนไหวของราคาทองคำน่าจะขึ้นอยู่กับเหตุการณ์สำคัญเหล่านี้
ธนาคาร Bank of America คาดราคาทองพุ่งแตะ $3,000 ต่อออนซ์ในปี 2025 แม้ต้องเผชิญแรงกดดันช่วงครึ่งปีแรก
Bank of America ซึ่งเป็นธนาคารใหญ่อันดับสองของสหรัฐฯ ได้ระบุในรายงาน 2025 Outlook ว่า ราคาทองคำยังคงมีโอกาสแตะระดับ $3,000 ต่อออนซ์ในปีหน้า แม้ว่านักลงทุนจะต้องอดทนรอ เนื่องจากช่วงการเคลื่อนไหวในกรอบจำกัดอาจยืดเยื้อไปจนถึงครึ่งปีแรก Michael Widmer หัวหน้าฝ่ายวิจัยโลหะของธนาคารได้กล่าวเกี่ยวกับมุมมองปี 2025
ทางธนาคารได้ชี้ให้เห็นว่า ทองคำกำลังเผชิญกับแรงกดดันที่สำคัญในปีใหม่ เนื่องจากนักลงทุนตะวันตกกำลังเผชิญกับความเป็นไปได้ที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะสูงขึ้นและดอลลาร์สหรัฐฯ จะแข็งค่าขึ้น ทีมนักวิเคราะห์ของธนาคารคาดการณ์ว่า Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียงสองครั้งในปีหน้า โดยครั้งแรกในเดือนมีนาคมและครั้งที่สองในเดือนมิถุนายน
แรงกดดันจากนโยบายทรัมป์อาจจำกัดการซื้อทองคำในระยะสั้น แต่หนี้สาธารณะสหรัฐฯ หนุนแนวโน้มระยะยาว
แม้ว่าจะมีความท้าทาย แต่นักวิเคราะห์โลหะมีค่าคาดว่าทองคำจะได้รับแรงสนับสนุนที่แข็งแกร่งในปีใหม่ โดยมีปัจจัยหนุนจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและความวุ่นวายทางภูมิรัฐศาสตร์ที่กระตุ้นความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย ในรายงานคาดการณ์ ธนาคารประมาณการราคาทองคำเฉลี่ยที่ประมาณ $2,750 ต่อออนซ์ในปี 2025 ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากการคาดการณ์ครั้งก่อน
แม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นในปีหน้า นักวิเคราะห์ได้เน้นย้ำถึงหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของรัฐบาลว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่อาจสนับสนุนราคาทองคำ นักวิเคราะห์ระบุว่า “เรายังคงกังวลเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจมหภาคที่ไม่แน่นอนและมุมมองทางการคลัง หนี้ประชาชาติมีแนวโน้มที่จะแตะระดับสูงสุดใหม่เมื่อเทียบกับขนาดเศรษฐกิจภายในสามปีข้างหน้า ซึ่งอยู่ในช่วงของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยหน้า ธนาคารกลางต่างๆ ยังคงถือครองพันธบัตรรัฐบาลในปริมาณมาก และมุมมองทางการคลังสร้างแรงจูงใจที่แข็งแกร่งในการกระจายความเสี่ยงของทุนสำรองและเพิ่มการถือครองทองคำ ซึ่งเป็นการลงทุนที่ได้รับความนิยม”
วิเคราะห์กราฟทองวันนี้
จากการวิเคราะห์กราฟราคาทองคำในกรอบเวลา 4 ชั่วโมง เราจะเห็นการเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ โดยราคาปัจจุบันอยู่ที่บริเวณ $2,663 ต่อออนซ์ หลังจากที่ราคาได้พยายามทะลุแนวต้านสำคัญและเกิดการดีดตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
การวิเคราะห์เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แสดงให้เห็นสัญญาณที่น่าสนใจ โดยเส้น EMA 12 (สีแดง) และ EMA 26 (สีฟ้า) เริ่มมีการตัดกันขึ้น และราคาได้เคลื่อนตัวขึ้นเหนือเส้น EMA 200 (สีส้ม) อย่างชัดเจน สะท้อนถึงแรงซื้อที่เพิ่มขึ้นในระยะสั้น และแนวโน้มขาขึ้นที่กำลังก่อตัว
ดัชนี RSI แสดงให้เห็นการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่เข้าสู่เขต Overbought ที่ระดับ 70 สะท้อนว่าราคายังมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อได้ แม้อาจมีการพักฐานระยะสั้นบ้าง
ระดับแนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามองอยู่ที่ $2,673 และ $2,686 โดยเฉพาะแนวต้านแรกที่ราคาเพิ่งทดสอบและเกิดแรงขายทำกำไรออกมา ส่วนแนวรับสำคัญอยู่ที่ $2,654 และ $2,640 ซึ่งเป็นระดับที่มีแรงซื้อเข้ามาหนุนราคาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับการคาดการณ์แนวโน้มใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า มีความเป็นไปได้สูงที่ราคาจะทดสอบแนวต้านที่ $2,673 อีกครั้ง เนื่องจากแรงซื้อยังคงแข็งแกร่ง สังเกตได้จากการที่ราคาสามารถยืนเหนือเส้น EMA ทั้งสามเส้นได้อย่างมั่นคง หากสามารถผ่านแนวต้านนี้ไปได้ เป้าหมายถัดไปจะอยู่ที่ $2,686
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรระมัดระวังการเกิดแรงขายทำกำไรบริเวณแนวต้าน $2,673 เนื่องจากเป็นจุดที่เคยมีแรงขายออกมาก่อนหน้านี้ หากราคาไม่สามารถผ่านแนวต้านนี้ไปได้ อาจเห็นการพักฐานลงมาทดสอบแนวรับที่ $2,654 ซึ่งเป็นระดับที่มีเส้น EMA 200 วางตัวอยู่ และเป็นแนวรับทางจิตวิทยาที่สำคัญ
แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง
$2,654
$2,640
$2,623
แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง
$2,673
$2,686
$2,706
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน