วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 18 ก.ย. 2567

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >     

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 18 กันยายน 2567 ตลาดทองคำยังคงมีความผันผวนหลังจากขึ้นไปทำจุดสูงสุดตลอดกาลครั้งใหม่ ขณะที่นักลงทุนทั่วโลกจับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในค่ำคืนนี้อย่างใกล้ชิด โดยราคาทองคำล่าสุดได้แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,589 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ท่ามกลางความคาดหวังอย่างสูงว่าเฟดจะเริ่มวงจรการลดอัตราดอกเบี้ยครั้งสำคัญ

ตลาดการเงินกำลังคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างมีนัยสำคัญในการประชุมครั้งนี้ โดยมีโอกาสสูงถึง 65% ที่จะลดดอกเบี้ยลง 0.50% ซึ่งถือเป็นการปรับลดครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี ในขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่มีมุมมองที่ระมัดระวังกว่า โดยคาดว่าจะเป็นการลดลง 0.25% พร้อมส่งสัญญาณการปรับลดดอกเบี้ยต่อเนื่องไปจนถึงปี 2025

ธนาคารกลางทั่วโลกแห่ซื้อทองคำ หวั่นความไม่แน่นอนระบบการเงินโลก

นอกจากปัจจัยด้านอัตราดอกเบี้ยแล้ว อีกหนึ่งแรงหนุนสำคัญของราคาทองคำคือการที่ธนาคารกลางทั่วโลกยังคงเพิ่มการถือครองทองคำอย่างต่อเนื่อง โดย ANZ ประเมินว่าธนาคารกลางจะซื้อทองคำราว 950 ตันในปี 2024 และ 850 ตันในปี 2025 แม้จะลดลงจากสองปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่สูงมากเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีต

การซื้อทองคำของธนาคารกลางในปริมาณมากนี้สะท้อนถึงความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความยั่งยืนของระบบการเงินโลกที่พึ่งพาสหรัฐฯ เป็นหลัก รวมถึงความวิตกกังวลเกี่ยวกับมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต นักวิเคราะห์จาก Societe Generale (SocGen) ได้ให้ความเห็นว่า แนวโน้มการเพิ่มขึ้นของภาวะหลายขั้วอำนาจ (multi-polarisation) และหนี้สาธารณะทั่วโลกชี้ให้เห็นถึงการสนับสนุนในระยะยาวต่อการซื้อทองคำของธนาคารกลาง ซึ่งบ่งชี้ถึงการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของราคาทองคำที่ปรับด้วยอัตราเงินเฟ้อในระยะยาว

ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ยังคงเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ส่งผลบวกต่อราคาทองคำ โดยเฉพาะความตึงเครียดในตะวันออกกลางและความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ล่าสุดมีรายงานจาก Al-Jazeera ว่า Hezbollah ของเลบานอนกล่าวโทษอิสราเอลว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดหลายครั้ง พร้อมระบุว่าจะมี “การลงโทษที่สาสม” ขณะที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยืนยันว่าสหรัฐฯ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว สถานการณ์เช่นนี้ทำให้นักลงทุนหันมาถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย (safe-haven asset) มากขึ้น

นักวิเคราะห์คาดราคาทองพุ่งแตะ 2,900 ดอลลาร์ ท่ามกลางความผันผวนระยะสั้น

ท่ามกลางปัจจัยบวกมากมาย นักวิเคราะห์จาก ANZ คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นไปแตะระดับ $2,900 ภายในสิ้นปีหน้า โดยได้แรงหนุนจากความต้องการลงทุนที่ฟื้นตัว ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนที่น่าผิดหวังในช่วงครึ่งแรกของปี 2024

Soni Kumari และ Daniel Hynes นักกลยุทธ์ด้านสินค้าโภคภัณฑ์จาก ANZ กล่าวว่า การลดลงของอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง (real rates) และการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จะเสริมสร้างความสัมพันธ์แบบผกผันกับทองคำในช่วงวัฏจักรการผ่อนคลายนโยบายการเงินที่กำลังจะมาถึง ซึ่งจะกระตุ้นความต้องการลงทุนเมื่อต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำลดลง และคาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวของการลงทุนเชิงกลยุทธ์ในทองคำ ซึ่งจะผลักดันราคาให้สูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม ANZ เตือนว่าตลาดทองคำอาจเผชิญกับความผันผวนในระยะสั้น เนื่องจากสถานะการลงทุนเก็งกำไรดูเหมือนจะอยู่ในระดับที่สูงเกินไป โดยสถานะขายล่วงหน้า (short positions) เกือบจะถูกปิดไปหมดแล้ว ในขณะที่สถานะซื้อล่วงหน้า (long positions) อยู่ใกล้ระดับสูงสุดของปี 2020

ทั้งนี้ ANZ ได้ให้มุมมองทางเทคนิคว่า “เราคาดว่าราคาจะเคลื่อนไหวไปสู่ช่วง $2,640-$2,650 ในเร็วๆ นี้ ตราบใดที่ราคายังคงอยู่เหนือ $2,550 อย่างไรก็ตาม หากราคาลดลงต่ำกว่า $2,540 อาจบ่งชี้ว่าการทะลุแนวต้านครั้งนี้เป็นสัญญาณหลอก ในกรณีนั้น อาจเกิดแรงขายทางเทคนิคท่ามกลางการเร่งทำกำไรหลังจากราคาปรับตัวขึ้นล่าสุด และราคาอาจลดลงไปสู่แนวรับถัดไปที่ $2,460”

Societe Generale ชี้ทองเป็นสินทรัพย์ที่น่าลงทุนที่สุด ท่ามกลางความท้าทายของสินค้าโภคภัณฑ์อื่น

ในขณะที่สินค้าโภคภัณฑ์ส่วนใหญ่กำลังเผชิญกับความท้าทาย นักวิเคราะห์จาก Societe Generale (SocGen) มองว่าทองคำเป็นสินค้าโภคภัณฑ์เพียงชนิดเดียวที่น่าลงทุนในขณะนี้ โดยได้เพิ่มสัดส่วนการถือครองทองคำเป็น 100% ของการลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ทั้งหมด และคิดเป็น 7% ของการจัดสรรสนทรัพย์รวม ซึ่งเพิ่มขึ้น 40% จากไตรมาสก่อนหน้า การตัดสินใจนี้สะท้อนถึงมุมมองเชิงบวกอย่างมากต่อทองคำในสภาวะตลาดปัจจุบัน

SocGen คาดการณ์ว่าราคาทองคำในตลาดสปอตจะเฉลี่ยอยู่ที่ $2,700 ในไตรมาส 4 ปี 2024 ก่อนจะปรับตัวขึ้นเป็น $2,725 ในไตรมาสแรกของปี 2025 และ $2,750 ในไตรมาส 2 โดยคาดว่าราคาเฉลี่ยทั้งปี 2025 จะอยู่ที่ $2,800 ซึ่งเป็นระดับราคาที่สูงกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้

นักวิเคราะห์จาก SocGen ชี้ว่านักลงทุนจีนเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของการปรับตัวขึ้นของราคาทองในช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายน และได้กลายเป็นกำลังสำคัญในตลาดทองคำ เนื่องจากมีทางเลือกในการลงทุนที่น่าสนใจอย่างจำกัดในประเทศ พวกเขากล่าวว่าตราบใดที่จีนยังคงอยู่ในภาวะซบเซา ทองคำก็น่าจะได้รับแรงหนุนเพิ่มเติม ในขณะที่สินค้าโภคภัณฑ์ประเภทอื่นๆ จะยังคงได้รับผลกระทบ

มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ ความท้าทายและโอกาสในตลาดทองคำ

แม้ว่าปัจจัยบวกต่างๆ จะส่งผลดีต่อราคาทองคำ แต่นักวิเคราะห์ก็เตือนว่าตัวเร่งที่จะผลักดันราคาให้สูงขึ้นไปอีกอาจยังไม่ชัดเจนนัก เนื่องจากปัจจัยหลักๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงนโยบายของเฟด ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง และความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ได้ถูกคาดการณ์และรับรู้ในตลาดไปค่อนข้างมากแล้ว

Daniel Ghali นักวิเคราะห์อาวุโสด้านสินค้าโภคภัณฑ์จาก TD Securities ให้ความเห็นว่า การปรับตัวขึ้นครั้งล่าสุดของทองคำอาจเป็นเพียงการ stop hunt เนื่องจากจังหวะเวลาที่แปลกประหลาดสำหรับการทะลุจุดสูงสุดตลอดกาลใหม่ พร้อมกับหลักฐานที่แสดงว่ามีการเพิ่มสถานะขาย (shorts) ใหม่

อย่างไรก็ตาม ด้วยปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ความไม่แน่นอนทางการเมือง แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยและค่าเงินดอลลาร์ รวมถึงการซื้อทองคำอย่างต่อเนื่องของธนาคารกลาง ล้วนเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นต่อไปในอนาคต

Olivia Cross นักเศรษฐศาสตร์อเมริกาเหนือจาก Capital Economics แสดงความเห็นเกี่ยวกับภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯ ว่า ด้วยยอดขายกลุ่มควบคุม (control group sales) ที่ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และตลาดการเงินยังคงคาดการณ์โอกาสประมาณ 65% ที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% และเขายังคงเชื่อว่าข้อมูลโดยรวมสอดคล้องกับการลดลง 0.25% มากกว่า ด้วยการบริโภคที่ยังคงแข็งแกร่งในขณะนี้ ความกังวลเรื่องภาวะถดถอยดูเหมือนจะเกินจริง

ในช่วงที่ผ่านมา ราคาทองคำได้พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วจากระดับ $2,500 มาแตะจุดสูงสุดที่ $2,589 ก่อนที่จะเกิดแรงขายทำกำไรเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม แท่งเทียนล่าสุดแสดงให้เห็นถึงแรงซื้อที่กลับเข้ามา โดยราคาได้ฟื้นตัวขึ้นมาที่ $2,575

แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามองเริ่มจากแนวรับแรกที่ $2,560 ซึ่งเป็นระดับ EMA 26 (เส้นสีฟ้า) ตามด้วยแนวรับถัดไปที่ $2,545 และแนวรับสำคัญระยะกลางที่ $2,53 ซึ่งเป็นแนวต้านในครั้งล่าสุด

สำหรับแนวต้านสำคัญที่ต้องติดตาม เริ่มจากแนวต้านแรกที่ $2,575 ซึ่งใกล้เคียงเส้นค่าเฉลี่ย EMA 12 (สีแดง) หากผ่านไปได้ จะเจอกับแนวต้านของจุดสูงสุดตลอดกาลล่าสุดที่ $2,589 โดยมีแนวต้านถัดไปอยู่ที่ $2,600 ซึ่งเป็นระดับจิตวิทยาสำคัญ

ดัชนี RSI อยู่ที่ระดับ 60 ลดลงหลังจากเข้าสู่ภาวะ Overbought ก่อนหน้านี้ แสดงให้เห็นว่ายังมีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวขึ้นต่อได้ อย่างไรก็ตาม หากเกิด Divergence ระหว่าง RSI กับราคา อาจเป็นสัญญาณเตือนถึงการพักฐานในระยะสั้นซึ่งต้องเฝ้าระวังต่อไป

คาดการณ์แนวโน้มใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า วันนี้ ราคาทองคำน่ามีความผันผวนค่อนข้างรุนแรง เนื่องจากจะมีการประกาศผลการปรับอัตราดอกเบี้ย แนวโน้มของราคาอาจจะยังคงแกว่งตัวในกรอบ $2,560 - $2,575 โดยมีโอกาสทดสอบแนวต้านที่ $2,589 อีกครั้ง หากผ่านไปได้ อาจมีแรงซื้อเพิ่มเติมพุ่งขึ้นทดสอบ $2,600 แต่หากไม่ผ่าน อาจเกิดแรงขายทำกำไรระยะสั้น ทำให้ราคาย่อตัวลงมาทดสอบแนวรับที่ $2,545

แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $2,560

• $2,545

• $2,431

แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $2,575

• $2,589

• $2,600