วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 15 ธ.ค. 2566

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >      

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

Gold Spot ในปัจจุบันอยู่ที่บริเวณ $2,036 ขณะที่ Gold Futures อยู่ที่บริเวณ $2,047.7

ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ แสดงท่าทีว่าจะหยุดวงจรการปรับอัตราดอกเบี้ยที่เข้มงวดนี้แล้ว ในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรก็ปรับตัวลดลง ยิ่งส่งเสริมให้ราคาทองคำมีความน่าสนใจมากขึ้น

นอกเหนือจากธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่หยุดนิ่งในรอบการปรับอัตราดอกเบี้ยนี้ ล่าสุดธนาคารแห่งอังกฤษหรือ BoE ก็คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.25% แต่นักวิเคราะห์ระบุว่า ธนาคารกลางยังคงแสดงท่าทีลังเล เนื่องจากยังคงมุ่งเน้นไปที่การลดอัตราเงินเฟ้อให้เหลือเป้าหมายที่ 2%

“คณะกรรมการยังคงตัดสินว่าความเสี่ยงต่อการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อยังคงมีอยู่ โดยที่ค่าเฉลี่ยการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อ CPI อยู่ที่ 2.2% และ 1.9% ในช่วงระยะเวลา 2 และ 3 ปี” แถลงการณ์ระบุ

คำแถลงยังระบุด้วยว่าสมาชิกสามคนของคณะกรรมการลงมติให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 25 จุดพื้นฐาน

“ตามที่แสดงในรายงานนโยบายการเงินเดือนพฤศจิกายน คณะกรรมการยังคงตัดสินว่านโยบายการเงินมีแนวโน้มที่จะจำเป็นต้องมีข้อจำกัด และมีระยะเวลาที่ขยายออกไป รวมถึงจำเป็นต้องมีการเข้มงวดนโยบายการเงินเพิ่มเติม หากมีหลักฐานบ่งชี้ถึงแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง” แถลงการณ์ระบุ

การตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงินของธนาคารแห่งอังกฤษเกิดขึ้นในทางตรงกันข้ามอย่างชัดเจนกับจุดยืนของธนาคารกลางสหรัฐ เนื่องจาก Fed เตรียมสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2024 แล้ว

BoE ไม่คาดว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงไตรมาสที่สามของปีหน้าเป็นอย่างน้อย ในเวลาเดียวกัน คณะกรรมการยังได้เน้นย้ำถึงแนวทาง ว่าอัตราอาจจะอยู่ที่ระดับต่ำสุดที่ 4.25% ภายในปี 2026

ทางฝั่งของธนาคารกลางยุโรป หรือ ECB ก็คงอัตราดอกเบี้ยหลัก และอัตราดอกเบี้ยสำหรับวงเงินกู้ยืมส่วนเพิ่มและวงเงินเงินฝากไว้เช่นกัน โดยไม่เปลี่ยนแปลงที่ 4.50%, 4.75% และ 4.00% ตามลำดับ

“แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลงในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แต่ก็มีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวขึ้นอีกครั้งชั่วคราวในระยะเวลาอันใกล้นี้ จากการคาดการณ์ล่าสุดของเจ้าหน้าที่ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วงปีหน้า ก่อนที่จะเข้าใกล้เป้าหมาย 2% ในปี 2025” ECB กล่าวในแถลงการณ์นโยบายการเงิน

จากการคาดการณ์ของเจ้าหน้าที่ ECB ซึ่งคาดว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อจะลดลงเนื่องจากการเติบโตยังน้อยอยู่

อัตราเงินเฟ้อทั่วไปคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 5.4% ในปีนี้ /  2.7% ในปี 2024  / 2.1% ในปี 2025 และ 1.9% ในปี 2026

“เมื่อเปรียบเทียบกับการคาดการณ์ของเจ้าหน้าที่ในเดือนกันยายน ตัวเลขนี้เป็นการปรับลดลงของปี 2023 และโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับปี 2024

แม้ว่า ECB จะยังคงเป็นกลางต่อนโยบายการเงิน แต่นักวิเคราะห์บางคนกล่าวว่าการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อที่แก้ไขลดลงส่งสัญญาณว่าอัตราดอกเบี้ยจะลดลงเร็วกว่าในภายหลัง

“การตัดสินใจของ ECB ที่จะคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากไว้ที่ 4.0% ในวันนี้ และทำการเปลี่ยนแปลงคำแถลงนโยบายอย่างจำกัด ชี้ให้เห็นว่าผู้กำหนดนโยบายกำลังต่อต้านการคาดการณ์ของตลาดสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่จะเริ่มในเดือนมีนาคมปีหน้า 

อย่างไรก็ตาม ธนาคารได้ปรับลดการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อลงอย่างมาก และเราคิดว่าธนาคารจะเปลี่ยนการปรับอัตราดอกเบี้ยในอีกไม่นานนี้” Andrew Kenningham หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ยุโรปของ Capital Economics กล่าว

“เราคิดว่าอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะต่ำกว่าการคาดการณ์ใหม่ของ ECB ในปีหน้าค่อนข้างมาก และตอนนี้กำลังคาดการณ์ว่า ECB จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 25bp เป็นจำนวน 5 ครั้ง โดยเริ่มในเดือนเมษายน ซึ่งน้อยกว่าการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ย 6 หรือ 7 ครั้งโดยตลาดการเงินเล็กน้อย ” Kenningham กล่าวเสริม

สัญญาณของธนาคารกลางสหรัฐฯ ว่าอัตราดอกเบี้ยจะลดลงในปี 2024 ได้สร้างโมเมนตัมที่ดีให้กับตลาดทองคำ และนั่นจะนำไปสู่จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีใหม่

George Milling-Stanley หัวหน้านักยุทธศาสตร์ทองคำที่ State Street Global Advisors กล่าวว่า แม้ว่าทองคำจะพุ่งขึ้นสูงสุดในช่วงที่ผ่านมา แต่ก็ยังมีพื้นที่เหลืออีกมากในตลาดสำหรับราคาที่สูงขึ้น

“เมื่อทองคำพบโมเมนตัมใหม่ ก็ไม่อาจบอกได้ว่าราคาจะไปสูงขึ้นได้อย่างไร” เขากล่าว “เป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้เห็นจุดสูงสุดตลอดกาลในปีหน้า”

ในขณะที่ Milling-Stanley มีความเชื่อมั่นในทองคำ แต่เขาเสริมว่าเขาไม่คาดว่าจะเกิดการทะลุแนวต้านในเร็วๆ นี้ เขาตั้งข้อสังเกตว่าในขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐกำลังมองหาการลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า แต่คำถามยังคงอยู่ว่าเมื่อใดจะเกิดขึ้นจริง เขาเสริมว่าคำถามเรื่องจังหวะเวลายังคงทำให้ราคาทองคำไม่แน่นอน

ในการคาดการณ์อย่างเป็นทางการของ State Street ทีมของ Milling-Stanley มองเห็นโอกาส 50% ที่ราคาทองคำจะซื้อขายระหว่าง 1,950 ถึง 2,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในปีหน้า 

ในเวลาเดียวกัน บริษัทมองเห็นโอกาส 30% ที่ราคาจะซื้อขายระหว่าง 2,200 ถึง 2,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์

และมีโอกาสเพียง 20% ที่ State Street มองเห็นศักยภาพของทองคำที่จะซื้อขายระหว่าง 1,800 ถึง 1,950 ดอลลาร์ต่อออนซ์

Milling-Stanley กล่าวว่าสุขภาพของเศรษฐกิจจะเป็นตัวกำหนดว่าราคาทองคำจะขึ้นไปสูงแค่ไหน

“ความรู้สึกของผมคือเรากำลังจะมีช่วงการเติบโตที่ต่ำกว่าแนวโน้มและอาจเกิดภาวะถดถอย แต่มันจะตามมาด้วยอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงเหนียวแน่นจากมาตรการที่ Fed ต้องการ นี่จะเป็นสภาพแวดล้อมที่ดีสำหรับทองคำ” เขากล่าว 

“หากเราประสบภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ ตลาดกระทิงของทองคำก็จะเข้ามามีบทบาท”

ในขณะที่โอกาสกลับตัวของทองคำคาดว่าจะดึงดูดนักลงทุนเชิงกลยุทธ์รายใหม่ Milling-Stanley กล่าวว่าการสนับสนุนระยะยาวของทองคำบ่งชี้ถึงโมเมนตัมที่ยั่งยืนจนถึงปี 2024

เขากล่าวว่าความขัดแย้งที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องสองครั้งจะทำให้ทองคำยิ่งได้รับความสนใจ เขาเสริมว่าปีหน้าจะมีการเลือกตั้งที่ไม่แน่นอนและไม่สวยงาม ซึ่งจะเพิ่มเสน่ห์ดึงดูดใจของทองคำด้วย นอกจากนี้เขายังกล่าวอีกว่าความต้องการที่เพิ่มขึ้นในอินเดียและตลาดเกิดใหม่อื่นๆ จะให้การสนับสนุนทองคำ

Milling-Stanley กล่าวว่าสิ่งพิเศษอย่างหนึ่งสำหรับตลาดทองคำทางกายภาพยังคงเป็นจีน เนื่องจากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอและความไม่มั่นคงของตลาดการเงินอาจทำให้ผู้บริโภคจำนวนมากต้องออกจากตลาดในสภาพแวดล้อมที่ราคาสูงขึ้น

สุดท้ายนี้ การซื้อทองคำของธนาคารกลางเพิ่มเติมจะเพิ่มการเปลี่ยนแปลงมุมมองใหม่ในตลาด

“ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา มันสมเหตุสมผลแล้วที่ตอนนี้จะได้กำไรเมื่อทองคำอยู่เหนือ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และผมคิดว่านั่นเป็นส่วนหนึ่งของเหตุผลว่าทำไมเราถึงอาจร่วงลงต่ำกว่า 2,000 ดอลลาร์เป็นครั้งคราวในปีหน้า แต่ ณ จุดหนึ่ง ผมยังคงคิดว่าทองคำจะพุ่งขึ้นมาเหนือระดับ 2,000 ดอลลาร์นั้น” เขากล่าว “ธนาคารกลางมีความสม่ำเสมอมากมาเป็นเวลา 14 ปีแล้ว โดยซื้อที่ใดก็ได้ระหว่าง 10% ถึง 20% เปอร์เซ็นต์ของความต้องการต่อปี นั่นเป็นการสนับสนุนทองคำอย่างมาก และคาดว่าแนวโน้มดังกล่าวจะยังคงดำเนินต่อไปอีกหลายปี”

Milling-Stanley คาดหวังว่าในโลกของความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและความวุ่นวายทางภูมิรัฐศาสตร์ การขายทองคำที่สำคัญใดๆ ก็จะถูกตามซื้อคืนได้ค่อนข้างเร็ว

“คำมั่นสัญญาของทองคำสำหรับนักลงทุนนั้นมีลักษณะสองประการมาโดยตลอด เมื่อเวลาผ่านไป ไม่ใช่ทุกปี แต่เมื่อเวลาผ่านไป ทองคำสามารถช่วยเพิ่มผลตอบแทนของพอร์ตการลงทุนที่สมดุลอย่างเหมาะสม และเมื่อใดก็ตาม ที่ทองคำลดลง ความเสี่ยงและความผันผวนในพอร์ตการลงทุนก็จะสมดุลอย่างเหมาะสมเช่นกัน” เขากล่าว “บางอย่างจะดึงดูดนักลงทุนรายใหม่ในปี 2024”

ราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง $2,010 - $2,050 โดยแนวรับจะขยับขึ้นจากเมื่อวาน เนื่องจากราคายังคงสามารถรักษาโมเมนตัมเอาไว้ได้ถึงแม้จะขึ้นทดสอบแนต้านแล้วยังไม่สามารถผ่านไปได้ก็ตาม

แนวรับหลักในวันนี้จะขยับขึ้นมาอยู่ที่บริเวณ $2,017 และถัดไปที่บริเวณ $2,005 ซึ่งเป็นบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย EMA 12, 26 ตามลำดับ

ขณะที่เมื่อเข้าไปดูในกรอบเวลา 4 ชั่วโมง จะเห็นแนวรับระยะสั้นอยู่ในกรอบช่วง $2,023 - $2,014

ทางด้านของแนวต้านยังคงมีอุปสรรคอยู่ที่บริเวณ $2,050 และ $2,071 เป็นหลัก ซึ่งน่าจะเป็นเป้าหมายสำคัญของราคาในช่วงนี้ และจะมีแนวต้านที่รอทดสอบภายในวันอยู่ที่ $2,040

แนวโน้มภาพรวมของราคาทองคำยังคงอยู่ในตลาดกระทิง และถ้าวันนี้ไม่มีเหตุการณ์เกินคาดหมายจนทำให้ราคาปิดต่ำกว่า $2,000 ราคาทองคำในสัปดาห์นี้ก็น่าจะกลับมาปิดเป็นแท่งบวกอีกครั้ง

กราฟทองคำ ระดับ 1 วัน และ 4 ชั่วโมง

แนวรับ ในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ $2,023 - $2,014

แนวต้าน ในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ $2,040 - $2,050 และ $2,071