วิธีดูกราฟราคาทองที่นักลงทุนทองคำต้องรู้ ฉบับมือใหม่ต้องอ่าน

อัพเดทครั้งล่าสุด
coverImg
แหล่งที่มา: DepositPhotos

การลงทุนในทองคำเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนหลายคน แต่การจะประสบความสำเร็จในตลาดนี้ จำเป็นต้องมีความรู้และทักษะในการวิเคราะห์ข้อมูล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอ่านและตีความกราฟราคาทอง ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจลงทุนได้อย่างชาญฉลาด


บทความนี้จะแนะนำวิธีดูกราฟราคาทองสำหรับมือใหม่ ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจแนวโน้มตลาด และระบุจังหวะการซื้อขายที่เหมาะสม


กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้


เทรดทองเดี๋ยวนี้ >     

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

วิธีดูกราฟราคาทอง แบบ Real-time

การดูกราฟทองคำเป็นเครื่องมือสำคัญของนักลงทุนทุกคน ซึ่งจะช่วยให้คุณเข้าใจการเคลื่อนไหวของราคาทองคำได้ดียิ่งขึ้น มาดูกันว่ามีอะไรต้องรู้บ้าง


สอนวิธีดูกราฟราคาทองคำ

1. ชื่อสินทรัพย์ และช่วงเวลา

ทอง: ชื่อของสินทรัพย์

15 นาที: ช่วงเวลาของแท่งเทียนแต่ละแท่ง (ในกราฟนี้คือ 15 นาที)


2. เครื่องมือการวิเคราะห์

  • ปุ่มรูปแบบกราฟ: ใช้สำหรับเปลี่ยนกราฟเป็นรุปแบบต่างๆ เช่น Candlesticks หรือ Line

  • ปุ่ม อินดิเคเตอร์: ใช้เพิ่มตัวชี้วัดทางเทคนิคต่างๆ

  • และแถบด้านข้างเช่น เส้นแนวโน้ม พู่กัน เป็นต้น


3. ข้อมูลราคาปัจจุบัน

  • ราคาเปิด (Open)

  • ราคาสูงสุด (High)

  • ราคาต่ำสุด (Low)

  • ราคาปิดล่าสุด (Close)


4. แกนราคา (แนวตั้ง)

แสดงระดับราคาของทองคำในหน่วยดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

ในภาพนี้ ราคาอยู่ในช่วงประมาณ 2,634 ถึง 2,670 ดอลลาร์


5. แกนเวลา (แนวนอน)

แสดงช่วงเวลาของกราฟ จากซ้ายไปขวา

ในภาพนี้ แสดงตั้งแต่ 14 ถึง 15 เดือนตุลาคม


6. แท่งเทียน (Candlesticks)

  • แท่งสีเขียว: ราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด (ราคาขึ้น)

  • แท่งสีแดง: ราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด (ราคาลง)

  • ส่วนบนและล่างของเส้น (wick): แสดงราคาสูงสุดและต่ำสุดในช่วงเวลานั้น


7. แนวโน้มของราคา

จากภาพ เห็นได้ว่าราคาทองมีแนวโน้มขาลงในระยะสั้น ในช่วงวันที่ 15


8. ตัวเลือกช่วงเวลา

1m, 5m, 15m, 30m, 1h, 2h, 4h, D, W, Ml: ใช้เปลี่ยนระยะเวลาที่แสดงในกราฟ

กราฟแท่งเทียนมีลักษณะอย่างไร ?

 กราฟแท่งเทียน


ราคาเปิด (Open Price) : หมายถึงราคาซื้อขายแรกที่เกิดขึ้นตั้งแต่เปิดตลาดของวันนั้น

ราคาสูงสุด (High Price) : หมายถึงการเคลื่อนไหวของราคาทองที่ขึ้นไปสูงสุดของวันนั้น

ราคาต่ำสุด (Low Price) : หมายถึงการเคลื่อนไหวของราคาทองที่ลงไปต่ำสุดของวันนั้น

ราคาปิด (Close Price) : หมายถึงราคาสุดท้ายที่เกิดขึ้นจากการสิ้นสุดการซื้อขายสิ้นสุดของวันนั้น


  • Doji เป็นรูปแบบของกราฟแท่งเทียนที่บอกถึงความลังเลในตลาด 



Doji

แนวโน้ม: จะตีความหมายได้ว่าแรงขายที่มีมากในวันแรกริ่มอ่อนตัวลง มีแรงซื้อเข้ามาในวันที่สองทำให้ราคาเกิดความสมดุลใหม่และอาจเปลี่ยนทิศ


โดยรูปแบบ Doji หลัก ๆ แล้วมี 3 รูปแบบ ได้แก่

รูปแบบ Doji หลัก ๆ แล้วมี 3 รูปแบบ


1.Long legged Doji

รูปร่างคล้ายเครื่องหมายบวก มีจุดเปิดและจุดปิดอยู่ตรงกลาง ไส้เทียนยาวออกไปทั้งด้านบนและด้านล่าง เป็นตัวที่บ่งบอกถึงการสู้กันระหว่างแรงซื้อกับแรงขาย แต่สุดท้ายไม่มีผู้ชนะ ทำให้ราคาทองปิดกลับมาที่จุดเปิด


2.Gravestone Doji

มีรูปร่างคล้ายป้ายหลุมศพ มีจุดเปิดและปิดต่ำ ไส้เทียนยาวขึ้นไปทางด้านบน บ่งบอกว่าราคาปรับตัวสูงขึ้นมากเกินไป จึงมีการขายจำนวนมาก ทำให้ราคาเปิดหรือต่ำกว่าในตอนแรก บ่งบอกถึงสัญญาณจุดกลับตัวจากขาขึ้นเป็นขาลง


3.Dragonfly Doji 

รูปร่างคล้ายแมลงปอ มีจุดเปิดและจุดปิดสูง ไส้เทียนยาวลงไปด้านล่าง บ่งบอกว่าราคาทองคำปรับทิศทางต่ำลงมากเกินไปแล้วจึงมีการซื้อจำนวนมาก ทำให้ราคาปิดกลับมาที่จุดเปิด


  • Hammer รูปแบบการกลับตัวที่เกิดขึ้นในสภาวะตลาดขาลง


Hammer

แนวโน้ม: การเกิด Hammer บ่งบอกถึงแรงขายในช่วงแรกแต่มีการซื้อกลับเข้ามาอย่างมากระหว่างวันทำให้แนวโน้มมีโอกาสกลับตัวเป็นขาขึ้น ส่วนจะมากเกิดใกล้จุดต่ำสุดของตลาดขาลง โดยราคามีการปรับตัวลดลง เนื่องจากแรงขายอ่อนแรงลงและมีแรงซื้อกลับมาค่อนข้างมาก แรงซื้อจึงดันให้ราคาทองคำปิดในราคาจุดสูงสุดหรือสูงขึ้นได้ จึงทำให้ตัวแท่งเทียนสั้น และไส้เทียนล่างยาวมีรูปร่างเหมือนค้อน


  • Inverted Hammer รูปแบบการกลับตัวที่เกิดขึ้นในสภาวะตลาดขาลง


Inverted Hammer

แนวโน้ม: ไส้เทียนด้านบนยาว บ่งบอกถึงการเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาถึงการเข้าสู่ตลาดขาขึ้น ส่วนมากเกิดใกล้จุดต่ำสุดของตลาดขาลง เกิดจากแรงซื้อที่มากทำให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นและเมื่อถึงจุดหนึ่งจะมีการขายจำนวนมาก ทำให้ราคาปิดกลับมาอยู่ใกล้ราคาเปิด ส่งผลให้ไส้เทียนยาวขึ้นไปด้านบน


หมายเหตุ: การดูกราฟแท่งเทียนแบบค้อน (Hammer) ควรดูแท่งเทียนต่อไปหลาย ๆ แท่งด้วย เพื่อดูแนวโน้มราคาทองคำว่าจะมีโอกาสกลับตัวขึ้นหรือไม่ ถ้าหากแท่งเทียนต่อไปเป็นแท่งสีเขียว จะถือว่ามีแนวโน้มที่ราคาทองคำสูงขึ้น


  • Hanging Man รูปแบบการกลับตัวที่เกิดขึ้นใกล้จังหวะสิ้นสุดแนวโน้มขาขึ้น

Hanging Man

แนวโน้ม: เกิดจากแรงขายที่เข้ามามากกว่าปกติ และฝั่งซื้อเริ่มหมดแรง บ่งบอกถึงโอกาสกลับตัวเป็นขาลง แท่งเทียนจะปรากฏหลังจากมีแนวโน้มขาขึ้นอย่างชัดเจน เนื่องจากแรงซื้ออ่อนแรงลงและมีแรงขายกลับมาค่อนข้างมาก แรงขายจึงดันให้ราคาทองคำปิดในราคาจุดต่ำสุดหรือหรือต่ำลงกว่าเดิมได้ และราคาก็มักจะอ่อนค่าลงต่อเนื่องด้วยเช่นกัน


  • Bullish Engulfing & Bearish Engulfing

Bullish Engulfing  รูปแบบการกลับตัวมักเกิดขึ้นในตลาดสภาวะขาลง

Bullish Engulfing

แนวโน้ม: เกิดจากราคาของวันที่สอง แม้จะเปิดต่ำมาก แต่สามารถกลับแต่จะกลับมาปิดได้สูงในเวลาถัดมาที่บ่งบอกถึงราคาทองคำมีแนวโน้มจากขาลงเป็นขาขึ้น หรือสามารถเอาชนะขาลงได้


Bearish Engulfing รูปแบบการกลับตัวมักเกิดขึ้นในตลาดสภาวะขาขึ้น


Bearish Engulfing


แนวโน้ม: มีการเปิดตัวสูงแต่ปิดตัวต่ำของแท่งที่สองบ่งบอกถึงแรงซื้อที่ไม่มากพอ และแรงขายที่เข้ามาควบคุมเกมส์ให้ระวังราคาทองคำมีแนวโน้มเปลี่ยนเป็นขาลง

วิธีการใช้กราฟแท่งเทียนเพื่อวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำ

เมื่อรู้ลักษณะของกราฟแท่งเทียนกันไปแล้วเรามีประโยชน์ของการอ่านกราฟทองด้วยกราฟแท่งเทียนมาฝากนักลงทุนกันด้วย


วิธีการอ่านกราฟทองด้วยกราฟแท่งเทียนนั้นมีประโยชน์มาก สำหรับผู้ที่ต้องการเทรดทองคำขั้นต้น เพราะกราฟแท่งเทียนนั้นมีรูปแบบที่อ่านง่าย ดูง่าย ไม่ซับซ้อน มือใหม่ก็อ่านกราฟแท่งเทียนได้ง่าย ๆ ทำให้เป็นกราฟรูปแบบแรก ๆ ที่มือใหม่เพิ่งเริ่มต้นเทรดควรฝึกอ่านให้เป็น เพราะนอกจากจะใช้อ่านกราฟทองคำได้แล้ว ยังใช้อ่านกราฟ Forex ได้ด้วย


กราฟแท่งเทียน


ที่มา: finnomena


  • รูปร่างของแท่งเทียน 1 แท่ง โดยเปรียบเทียบราคาปิดของวันว่าฝั่งแรงซื้อหรือฝั่งแรงขายเป็นฝ่ายชนะ

  • ความยาวของแท่งเทียน โดยแท่งเทียนที่มีความยาวจะบอกว่าแรงซื้อหรือแรงขายมีความรีบร้อนในการซื้อขายจึงทำให้ราคามีความผันผวน แท่งเทียนสั้นๆ แสดงถึงความเอื่อยเฉื่อยขาดความกระตือรือร้น

  • ปริมาณการซื้อขายที่มากของแท่งเทียนจะเป็นตัวเสริมความมั่นใจในการแปลความหมายแท่งเทียนนั้น ๆ เนื่องจากมีคนสนใจและเข้ามามีส่วนร่วมซื้อขายเป็นจำนวนมาก ถ้าปริมาณการซื้อขายน้อยให้ตั้งข้อสงสัยไว้ก่อนว่าอารมณ์หรือทิศทางของราคานั้น ๆ 

  • การเปรียบเทียบระหว่างแท่งเทียน โดยเปรียบเทียบแท่งเทียนในปัจจุบันกับแท่งเทียนก่อนหน้า เช่น แท่งเทียนส่วนใหญ่มีอารมณ์ไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่

  • ราคาต่ำสุดในแต่ละแท่งเทียนยกตัวขึ้นในช่วงหุ้นขาขึ้นหรือไม่ ราคาสูงในแต่ละแท่งเทียนลดต่ำลงในช่วงหุ้นขาลงหรือไม่ เพื่อยืนยันว่าแนวโน้มทิศทางของราคาหุ้นยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

  • กลุ่มของแท่งเทียนมีการทับซ้อนกันของแท่งเทียนมากหรือน้อย เพื่อดูว่าแรงซื้อและแรงขายมีความรีบร้อนในการซื้อหรือขายหุ้นหรือไม่


รูปแสดงตัวอย่างกลุ่มของแท่งเทียนที่มีการทับซ้อนกันมาก และกลุ่มของแท่งเทียนที่มีการทับซ้อนกันน้อย

รูปแสดงตัวอย่างกลุ่มของแท่งเทียนที่มีการทับซ้อนกันมาก และกลุ่มของแท่งเทียนที่มีการทับซ้อนกันน้อย


รูปที่แสดงตัวอย่างกลุ่มของแท่งเทียนที่มีการทับซ้อนกันมาก และกลุ่มของแท่งเทียนที่มีการทับซ้อนกันน้อยในช่วงหุ้นขาขึ้น

รูปที่แสดงตัวอย่างกลุ่มของแท่งเทียนที่มีการทับซ้อนกันมาก และกลุ่มของแท่งเทียนที่มีการทับซ้อนกันน้อยในช่วงหุ้นขาขึ้น


รูปแสดงตัวอย่างกลุ่มของแท่งเทียนที่มีการทับซ้อนกันน้อยในช่วงหุ้นขาลง

รูปแสดงตัวอย่างกลุ่มของแท่งเทียนที่มีการทับซ้อนกันน้อยในช่วงหุ้นขาลง 


และถ้าเราพบว่ามีแท่งเทียนแท่งใหม่ที่มีอารมณ์ของแรงซื้อแรงขายที่ตรงข้ามกับทิศทางของแท่งเทียนจำนวนหลายๆ แท่งก่อนหน้า จะเป็นจุดที่ราคามีการกลับตัว จึงควรให้ติดตามการซื้อขายหุ้นตัวนั้นอย่างใกล้ชิดเพื่อหาจังหวะในการซื้อขาย


ลองเปลี่ยน Time Frame ให้สั้นลงเพื่อให้เห็นรายละเอียดการเคลื่อนที่ของราคาที่เพิ่มมากขึ้น

ราคาทองขึ้น – ลงเกิดจากปัจจัยอะไรบ้าง ?

นักลงทุนหลายคนคงเกิดความสงสัยว่า ราคาทองขึ้น-ลง ทุกวันนี้เกิดจากอะไรบ้าง ไม่เพียงแต่เป็นเพราะเศรษฐกิจโลกเท่านั้น แต่ยังมีปัจจัยอื่น ๆ อีกเยอะเลยขึ้นอยู่ว่าเราอยู่ในสถานการณ์ไหนบ้าง ไปดูกันเลย


1.ความต้องการ (อุปสงค์ และ อุปทาน) 


อุปสงค์ (Demand)  = ความต้องการซื้อ 


อุปทาน (Supply)    = ความต้องการขาย หรือ การเสนอขาย 


ดังนั้น ถ้ามีคนต้องการซื้อทองเยอะ ราคาทองคำ ก็จะสูงขึ้น แต่ในทางกลับกัน ถ้าไม่ค่อยมีคนซื้อ แต่อยากให้มีคนซื้อทองคำราคาทองคำ ก็จะต่ำลง 


ตัวอย่างเช่น 

ในช่วงปี 2023 ถึงต้นปี 2024 ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูงหลังจากการปรับขึ้นหลายครั้งในปีก่อนหน้า และส่งสัญญาณว่าอาจเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2024 หากเงินเฟ้อลดลงตามเป้าหมาย สถานการณ์นี้ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มอ่อนค่าลง และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ปรับตัวลดลง ปัจจัยเหล่านี้สนับสนุนให้ราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งส่งผลให้ราคาทองคำในประเทศไทยปรับตัวขึ้นตามไปด้วย


2.นโยบายการเงินของรัฐและอัตราดอกเบี้ย

ในปัจจุบัน ความสัมพันธ์ระหว่างอัตราดอกเบี้ย เศรษฐกิจ และราคาทองคำมีความซับซ้อนมากขึ้น อัตราดอกเบี้ยสูงไม่ได้สะท้อนถึงเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเสมอไป เนื่องจากธนาคารกลางใช้นโยบายนี้เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ แม้เศรษฐกิจอาจชะลอตัว


ในช่วงตลาดผันผวน ทองคำยังเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่นักลงทุนสนใจ แต่อัตราดอกเบี้ยสูงอาจทำให้สินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนคงที่ เช่น พันธบัตร น่าสนใจมากขึ้น


โดยทั่วไป เงินเฟ้อสูงมักส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้น ขณะที่เงินเฟ้อต่ำหรือเงินฝืดอาจทำให้ราคาทองลดลง

 

3.ราคาน้ำมัน

ราคาน้ำมันเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อสินค้าแทบทุกชนิดและเป็นตัวทำให้เกิดสภาวะอัตราเงินเฟ้อ โดยอัตราเงินเฟ้อกับราคาทองคำนั้นเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกันกับราคาทองคำ ช่วงไหนน้ำมันแพงมาก ๆ อัตราเงินเฟ้อก็มีโอกาสปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย ในทางตรงกันข้ามช่วงไหนราคาน้ำมันถูก เงินเฟ้อมีแนวโน้มลดลง ราคาทองคำก็มักถูกลงตาม


4.สกุลเงินดอลลาร์

เมื่อสกุลเงินดอลลาร์มีแนวโน้มอ่อนค่าลงเมื่อไหร่ ทองคำก็มีแนวโน้มราคาสูงขึ้น เช่น เงินยูโร เงินเยน หรือพิจารณาจาก US Dollar Index ก็ได้เช่นกัน ราคาทองคำโลกจะสูงขึ้น เพราะคนมองว่าทองคำดูกลายเป็นสินทรัพย์ที่เหมาะกับการสะสมมูลค่ามากกว่า ไม่ด้อยค่าลดลงอย่างสกุลเงินดอลลาร์ แต่ในทางกลับกัน หากค่าเงินดอลลาร์แข็งตัวขึ้น จะส่งผลราคาทองคำปรับตัวลดลง และนักลงทุนทองคำจะหันมาลงทุนในสกุลเงินดอลลาร์แทน 


5.ฤดูกาล ทองคำจะปรับตัวขึ้น

ช่วงตามฤดูกาล มักจะมีความต้องการซื้อทองคำเพิ่มมากขึ้นและส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นตามเหตุปัจจัยอุปสงค์อุปทาน โดยเฉพาะเทศกาลใหญ่ๆ ของ 2 ประเทศ คือ

   1. เทศกาลตรุษจีน ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 

   2. เทศกาลติวาลีของอินเดียในช่วงไตรมาส 4


6.ความเสี่ยงทางด้านการเมือง

ความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศและความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคาทองคำ ในช่วงที่เกิดวิกฤตหรือความตึงเครียดระหว่างประเทศ ราคาทองคำมักมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากนักลงทุนมองว่าทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดในปัจจุบันคือ สงครามรัสเซีย-ยูเครน และความตึงเครียดในตะวันออกกลาง


  • สรุปการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ ปี 2566-2567


ในตารางด้านล่างต่อไปนี้เป็นการสรุปข้อมูลราคาทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เริ่มตั้งแต่ปี 2566 ถึงปีปัจจุบัน 2567 โดยเป็นการแสดงราคาต่ำสุด ราคาสูงสุดของทุก ๆ เดือน รวมถึงราคารวมที่ปรับขึ้นหรือลดลงในแต่ละเดือน และสรุปราคารวม สูงสุด ต่ำสุด ประจำปี


เปรียบเทียบราคาทองตั้งแต่ปี 2566-2567

ปี

ปี 2567

ปี 2566

เดือน

ขึ้น/ลง

ต่ำสุด

สูงสุด

ขึ้น/ลง

ต่ำสุด

สูงสุด

ธ.ค.




-250

33,400

34,400

พ.ย.




-100

32,750

34,000

ต.ค.




+1,850

31,900

34,250

ก.ย.

-450

40,000

40,550

0

32,150

33,050

ส.ค.

-400

40,200

41,300

+400

31,500

32,150

ก.ค.

+350

40,400

42,150

-250

31,750

32,150

มิ.ย.

-300

40,150

41,000

-200

31,900

32,400

พ.ค.

+150

40,050

41,650

0

31,950

32,650

เม.ย.

+2,100

38,850

42,000

+250

31,800

32,850

มี.ค.

+3,950

34,600

38,550

+1,750

30,150

32,150

ก.พ.

+400

34,050

34,650

+400

29,650

30,250

ม.ค.

+550

33,400

34,300

-50

29,650

30,100

สรุป

+6,350

33,400

42,000

+3,800

29,650

34,40

3 ขั้นตอนเริ่มต้นเทรดทอง

1. เลือกโบรกเกอร์ให้ดีเหมาะกับไลฟ์สไตล์ ปัจจุบันมีการให้บริการเทรดทองคำหลายแพลตฟอร์มมากมาย ควรเลือกโบรกเกอร์ที่มีบัญชีเทรดหลากหลายประเภท ที่มีแพลตฟอร์มเทรด Forex และ CFD ที่คุณรู้สึกว่าใช้งานได้ง่ายและตรงกับความต้องการ 


2. เลือกเวลาเทรดที่เหมาะสม หาเวลาที่ราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวในทิศทางที่ดีขึ้น ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับความต้องการของทองคำเวลาหนึ่ง ตรวจสอบจากปัจจัยที่ส่งผลต่อความต้องการทองคำโลก เช่น การศึกษาข้อมูลลทางเศรษฐกิจ และการศึกษาราคาทองคำเป็นช่วงๆ 


3. เลือกใช้กลยุทธ์การเทรดที่เหมาะสม กลยุทธ์การเทรดจะช่วยให้นักลงทุนสามารถวิเคราะห์กราฟราคาทองคําเพื่อหาว่าตลาดจะเคลื่อนไหวต่อไปในทิศทางใด โดยนักลงทุนควรเริ่มจากทดสอบกลยุทธ์ในบัญชีทดลองก่อนการเปิดบัญชีซื้อขายจริงถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากอาจทำให้เราสูญเสียเงินได้โดยไม่ทันตั้งตัว  


mitrade
💸 ห้ามพลาด!!! 💸
เทรดทองคำกับโบรกเกอร์ชั้นนำในโลก🎁🎁🎁


แจกโบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์
ฝึกเทรดด้วยเงินเสมือนจริง $50, 000 ฟรี 💰
การลงทุนมีความเสี่ยง อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน

สรุปทั้งหมด

จากที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นเพียงข้อควรรู้เริ่มต้นก่อนการเริ่มดูกราฟทองจากสัญญาณแท่งเทียน ที่จะบ่งบอกให้เรารู้ความเคลื่อนไหวของตลาดซึ่งจะต้องอาศัยความเข้าใจในบริบทอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ทำความเข้าใจเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก, ทำความเข้าใจเกี่ยวกับปัจจัยการเพิ่มขึ้นลดลงของทองคำร่วมด้วย หรือการอ่านบทความตามเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่น่าเชื่อถือได้ ก็จะมีเทคนิคกลยุทธ์ของการดูกราฟทองคำให้เราได้อ่านและศึกษาขั้นตอนกัน

*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา


การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

goTop
quote
บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่?
บทความที่เกี่ยวข้อง
placeholder
หาเงินออนไลน์ ถูกกฎหมาย! แนะนำ 9 วิธีหาเงินออนไลน์การหาเงินหลักล้านไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปในยุคที่ไร้พรมแดนและทุกคนสามารถเข้าถึงสื่อโซเชียลมีเดียได้อย่างเท่าเทียมกัน ห้ามพลาดกับวิธีหาเงินออนไลน์ทั้ง 9 แบบที่เรานำมาฝาก
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 28 พ.ย. 2023
การหาเงินหลักล้านไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปในยุคที่ไร้พรมแดนและทุกคนสามารถเข้าถึงสื่อโซเชียลมีเดียได้อย่างเท่าเทียมกัน ห้ามพลาดกับวิธีหาเงินออนไลน์ทั้ง 9 แบบที่เรานำมาฝาก
placeholder
10 อันดับแอพหาเงินสร้างรายได้เสริมปี 2024ยังจำเป็นอยู่ไหมกับการทำงานกินเงินเดือนที่ต้องเข้าออฟฟิศทุกวัน ปัจจุบันที่ใคร ๆ ต่างก็นั่งทำงานหารายได้จากหลายช่องทางต้องบอกว่าหมดยุคแล้วกับตอกบัตรเข้าออฟฟิศ และนี่คือทั้งหมดของแอพหาเงินที่เรารวบรวมมาเป็นตัวเลือกสำหรับการสร้างรายได้แบบง่าย ๆ ที่บ้านสำหรับปีนี้ที่เรานำมาฝากกัน
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 30 ส.ค. 2023
ยังจำเป็นอยู่ไหมกับการทำงานกินเงินเดือนที่ต้องเข้าออฟฟิศทุกวัน ปัจจุบันที่ใคร ๆ ต่างก็นั่งทำงานหารายได้จากหลายช่องทางต้องบอกว่าหมดยุคแล้วกับตอกบัตรเข้าออฟฟิศ และนี่คือทั้งหมดของแอพหาเงินที่เรารวบรวมมาเป็นตัวเลือกสำหรับการสร้างรายได้แบบง่าย ๆ ที่บ้านสำหรับปีนี้ที่เรานำมาฝากกัน
placeholder
ต้นทุนคงที่ (Fixed Cost) และ ต้นทุนผันแปร (Variable Cost) คืออะไร และ มีอะไรบ้างต้นทุนในธุรกิจ ทั้งต้นทุนคงที่และต้นทุนผันแปร เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจและความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจ บทความนี้ เรามาทำความรู้จักกันว่า ต้นทุนคงที่ (Fixed Cost) และ ต้นทุนผันแปร (Variable Cost) คืออะไร และมีอะไรบ้าง ตามมาดูกันเลย
ผู้เขียน  MitradeInsights
3 เดือน 01 วัน ศุกร์
ต้นทุนในธุรกิจ ทั้งต้นทุนคงที่และต้นทุนผันแปร เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจและความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจ บทความนี้ เรามาทำความรู้จักกันว่า ต้นทุนคงที่ (Fixed Cost) และ ต้นทุนผันแปร (Variable Cost) คืออะไร และมีอะไรบ้าง ตามมาดูกันเลย
placeholder
คำสั่ง Long , Short คืออะไร? ​คำสั่ง Long (Buy), Short (Sell) คืออะไร คราวนี้เราก็จะมาพาเทรดเดอร์ทั้งมือเก่าและมือใหม่ไปทำความรู้จักคำสั่งนี้กัน เพื่อคล้าโอกาสการเทรดและทำกำไรจากความผันผวนของตลาดเงินให้มากขึ้น ตามมาดูกันเลย
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 08 มิ.ย. 2023
​คำสั่ง Long (Buy), Short (Sell) คืออะไร คราวนี้เราก็จะมาพาเทรดเดอร์ทั้งมือเก่าและมือใหม่ไปทำความรู้จักคำสั่งนี้กัน เพื่อคล้าโอกาสการเทรดและทำกำไรจากความผันผวนของตลาดเงินให้มากขึ้น ตามมาดูกันเลย
placeholder
อินดิเคเตอร์หุ้นคืออะไร? อินดิเคเตอร์หุ้น 3 ประเภทที่มีประโยชน์สำหรับการซื้อขายสิ่งชี้วัดหุ้นคืออะไร? สิ่งชี้วัดหุ้นช่วยในการซื้อขายอย่างไร? ในบทความนี้คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับข้อมูลพื้นฐานของสิ่งชี้วัดหุ้น และทีมงานได้เลือกสิ่งชี้วัดหุ้น 3 อันดับสำหรับคุณ
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 25 พ.ค. 2023
สิ่งชี้วัดหุ้นคืออะไร? สิ่งชี้วัดหุ้นช่วยในการซื้อขายอย่างไร? ในบทความนี้คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับข้อมูลพื้นฐานของสิ่งชี้วัดหุ้น และทีมงานได้เลือกสิ่งชี้วัดหุ้น 3 อันดับสำหรับคุณ
ราคาเสนอแบบเรียลไทม์
ราคาเสนอแบบเรียลไทม์