เงินเฟ้อแบบนี้จะออมทองดีไหม? แนะนำโปรแกรมออมทอง 2023
ในกระแสคาดการณ์แนวโน้มเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้น ทองคำกลายมาเป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนควรมีติดพอร์ตไว้ แต่ทองคำแต่ละบาทนั้นก็มีราคาแพงในแบบที่คนทั่วไปหรือพนักงานกินเงินเดือนเข้าไม่ถึง ซึ่งจะดีกว่าไหมหากเราสามารถแบ่งเงินจำนวนไม่มากที่ออมในแต่ละเดือนมาลงทุนในทองคำโดยเน้นที่ความสม่ำเสมอของเงินลงทุน เพื่อให้ได้เงินก้อนในท้ายที่สุด และจะดียิ่งขึ้นหากเงินก้อนนั้นสามารถเพิ่มพูนกำไรจากราคาทองคำที่ปรับขึ้นในระยาวได้ด้วย และนี่คือโปรแกรมออมทองที่ใครกำลังลังเลว่าจะออมทองดีไหมต้องตามไปทำความรู้จักกัน
การออมทองคืออะไร
การออมทอง คือ การสะสมทองคำจำนวนน้อย ๆ เพื่อให้ได้ทองคำก้อนใหญ่ในอนาคต ซึ่งวิธีนี้แตกต่างจากการออมเงินในปัจจุบันเพื่อไปซื้อทองในอนาคตตรงที่ การซื้อทองคำตั้งแต่วันนี้มักทำให้ผู้ออมมีโอกาสได้ต้นทุนราคาทองคำที่ถูกกว่าการซื้อในอนาคต เนื่องจากในระยะยาวราคาทองคำมักจะแพงขึ้นเรื่อย ๆ จากอำนาจของเงินเฟ้อ ดังนั้นการเริ่มต้นลงทุนในทองคำตั้งแต่วันนี้จึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่ารอไปซื้อในอนาคต
หากมองในมุมของการลงทุน การออมทองคำ เป็นเหมือนการลงทุนในทองคำแบบ Dollar Cost Average – DCA นั่นคือ เป็นการเฉลี่ยต้นทุนการซื้อทองคำตามระยะเวลาที่ซื้อด้วยจำนวนเงินที่เท่า ๆ กัน เช่น การออมทองคำทุกสิ้นเดือน เดือนละ 5,000 บาท จะเป็นการเฉลี่ยต้นทุนราคาซื้อทองคำทุกเดือน 12 ครั้งตลอดปี ทำให้มีแนวโน้มที่นักลงทุนจะได้ทองคำที่ราคาเฉลี่ยของปีนั้น ๆ ซึ่งเป็นการกระจายความเสี่ยงด้วยการกระจายเงินซื้อและลดโอกาสที่จะซื้อทองคำได้ที่ราคาสูงเกินไป
ปัจจุบันผู้ให้บริการซื้อขายทองคำมีโปรแกรมออมทองให้เลือกหลายแบบ ได้แก่
1.ออมตามใจ
เป็นวิธีที่นักลงทุนสามารถทำรายการซื้อทองออนไลน์ได้ทุกวันตามใจ ภายใต้เงื่อนไขขั้นต่ำของผู้ให้บริการแต่ละเจ้า รวมถึงช่วงเวลาให้บริการที่บางเจ้ารองรับการทำรายการ 24 ชั่วโมง บางเจ้าอาจให้บริการเฉพาะในเวลาทำการ ซึ่งเป็นโปรแกรมที่มีความยืดหยุ่น แต่เป็นระบบแบบแมนนวลที่ต้องส่งคำสั่งเอง
2.ออมรายเดือนแบบซื้อครั้งเดียว
โปรแกรมนี้ร้านทองจะหักเงินค่าซื้อขายในวันทำการแรกของเดือนตามจำนวนที่ลูกค้ากำหนดไว้ จากนั้นนำเงินทั้งก้อนไปซื้อทองให้ลูกค้าแบบอัตโนมัติในวันทำการที่สอง ทำให้ต้นทุนโปรแกรมออมนี้จะเฉลี่ยที่ทุกวันทำการที่สองของเดือน ซึ่งร้านทองส่วนใหญ่มักเสนอโปรแกรมนี้
3.ออมรายเดือนแบบเฉลี่ยซื้อทุกวันทำการ
โปรแกรมนี้จะเป็นการหักเงินตามจำนวนที่ลูกค้ากำหนดไว้ในวันทำการแรกของเดือน จากนั้นนำมาเฉลี่ยซื้อทองคำทุกวันทำการ ทำให้ราคาต้นทุนทองคำของลูกค้าเท่ากับค่าเฉลี่ยราคาทองคำของทุกเดือน ซึ่งจะมีการกระจายความเสี่ยงออกไปได้มากกว่า
4.ออมรายเดือนแบบยืดหยุ่น
เป็นการหักเงินทำรายการอัตโนมัตเช่นเดียวกับการออมทองรายเดือนสองโปรแกรมแรก แต่โปรแกรมนี้จะเป็นการเข้าซื้อทองคำให้ลูกค้าครั้งเดียวตามวันที่ตั้งค่าไว้ เช่น ทุกสิ้นเดือน หรือ ทุกวันที่ 15 ก็สามารถทำได้ จึงมีความยืดหยุ่นกว่า แต่ก็จะไม่กระจายความเสี่ยงเท่าการออมรายเดือนแบบเฉลี่ยซื้อทุกวันทำการ
จะออมทองดีไหม มีอะไรที่ต้องระวังบ้าง
การออมทองเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการลงทุนที่ช่วยให้นักลงทุนและคนทั่วไปสามารถเข้าถึงการลงทุนในทองคำได้ง่ายขึ้น ด้วยเงื่อนไขของการมีวินัยที่มากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าวิธีนี้ก็มีทั้งข้อได้เปรียบและข้อควรระวังที่ควรคำนึงถึงก่อนตัดสินใจเข้าลงทุน ได้แก่
◆ ข้อดีของการออมทอง
1. ไม่จำเป็นต้องมีเงินก้อนใหญ่ก็สามารถเริ่มลงทุนและเป็นเจ้าของทองคำได้ทันที
ร้านทองที่เสนอบริการออมทองคำมักมีขั้นต่ำให้เลือกตั้งแต่หลักสิบถึงหลักพัน ทำให้คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ง่าย เริ่มซื้อและเป็นเจ้าของทองคำได้ทันที ทั้งยังสามารถยุติการออมได้ทุกเมื่อโดยเลือกได้ว่าจะถอนเป็นเงินสดหรือทองคำกลับมา
2. ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ก็สามารถลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงได้
เนื่องจากการออมทองเป็นการลงทุนที่กระจายความเสี่ยงแบบ DCA ทำให้แม้ผู้ออมไม่มีความรู้ ไม่มีประสบการณ์ลงทุน ไม่ได้ติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจ ก็สามารถลงทุนในทองคำได้
3. สร้างโอกาสทำกำไรที่สูงขึ้นจากการออมเงินแบบปกติ
ด้วยแนวโน้มของราคาทองคำที่ในระยะยาวมักปรับตัวสูงขึ้นด้วยอำนาจของเงินเฟ้อ ทำให้ผู้ออมมีโอกาสได้กำไรเกินปกติจากราคาทองคำที่ปรับตัวสูงขึ้นในระยะยาว
4. มีความปลอดภัยสูง
เนื่องจากไม่จำเป็นต้องเก็บทองคำไว้กับตัว ช่วยลดต้นทุนในการเก็บรักษาและลดความเสี่ยงในการถูกโจรกรรม
5. ซื้อขายง่ายผ่านเว็บไซต์/แอปพลิเคชั่น
สามารถทำธุรกรรมได้ทันทีทุกที่โดยไม่ไปที่หน้าร้าน มีการตัดเงินและรับเงินได้แบบอัตโนมัติตามเงื่อนไขของร้านทองแต่ละเจ้า
◆ ข้อควรระวังในการออมทอง
1. มีความเสี่ยงที่จะได้ต้นทุนราคาแพงกว่าค่าเฉลี่ยนในระยะสั้น
เนื่องจากการออมทองเป็นการลงทุนแบบ DCA ที่เฉลี่ยต้นทุนตลอดช่วงที่ลงทุน ซึ่งหากเป็นการเข้าซื้อในช่วงที่ราคาทองเป็นขาขึ้นก็จะมีโอกาสได้ราคาซื้อเฉลี่ยที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยราคาปกติ การออมทองให้ประสบความสำเร็จจึงต้องใช้ระยะเวลานานเพื่อเฉลี่ยต้นทุนการซื้อให้ต่ำเข้าสู่ค่าเฉลี่ย และใช้เวลาเพื่อรอคอยให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นจากเงินเฟ้อ
2. ไม่มีการจ่ายปันผลเหมือนการฝากธนาคารหรือซื้อหุ้นปันผล
การออมทองคำเป็นการซื้อสะสมทองคำที่ไม่ได้การจ่ายปันผลหรือกระแสเงินสดกลับมา จะมีผลตอบแทนเป็นก้อนจากส่วนต่างของราคาซื้อขายทองคำเท่านั้น
3. มีความเสี่ยงของตัวกลางที่เป็นร้านทอง
เนื่องจากการออมทองคำจะไม่มีทองคำกลับมาให้นักลงทุนถือ แต่เป็นการฝากไว้ที่ร้านทองคำ ทำให้มีความเสี่ยงเรื่องเครดิตของร้านทอง ที่หากปิดไปก็จะทำให้นักลงทุนสูญเสียทั้งเงินลงทุนและทองคำไปทั้งหมด
การออมทองเหมาะกับใครบ้าง
ด้วยจุดเด่นของการออมทองอย่างที่กล่าวไปแล้ว การลงทุนด้วยการออมทองคำจึงเหมาะกับ
นักลงทุนที่สนใจการลงทุนในทองคำแท่งเพื่อจะถือทองคำจริง ๆ แต่ไม่มีเงินทุนตั้งต้นมากนัก เงินทุนส่วนใหญ่มาจากกระแสเงินสดที่คาดว่าจะได้รับในอนาคต
ต้องการเฉลี่ยต้นทุนการลงทุนเพื่อแสวงหาผลตอบแทนที่มากขึ้นในระยะยาว โดยไม่จำเป็นต้องติดตามสภาวะตลาดหรือสถานการณ์การลงทุน
ต้องการเก็งกำไรจากส่วนต่างราคาทองคำโดยไม่มีความจำเป็นต้องถือทองคำจริง ๆ
สำหรับนักลงทุนที่มีเงินทุนตั้งต้นน้อย และต้องการเก็งกำไรบนความผันผวนของราคาทองคำในช่วงสั้นโดยที่ไม่ต้องการถือทองคำจริง ๆ จะไม่เหมาะกับวิธีนี้ เนื่องจากในช่วงสั้นราคาทองคำแท่งมักมีการเปลี่ยนแปลงไม่มาก ผลตอบแทนที่ได้จึงไม่มากจากการซื้อขาย นอกจากนี้การออมทองคำยังเปิดให้นักลงทุนทำกำไรเเฉพาะทิศทางราคาขาขึ้น ทำให้มีโอกาสทำกำไรได้จำกัด
เครื่องมือที่ตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนสไตล์นี้ได้มากขึ้นจึงควรเป็นวิธีที่มีความยืดหยุ่นอย่างตราสารอนุพันธ์ เช่น Futures, CFD ด้วยเครื่องมือเหล่านี้ทำให้นักลงทุนสามารถทำกำไรจากราคทองคำได้ทั้งขาขึ้นและขาลง เสริมความได้เปรียบจากการใช้เลเวอเรจ ทำให้นักลงทุนสามารถคว้าทุกจังหวะทำกำไรแม้เริ่มต้นด้วยเงินทุนน้อย แต่ก็ต้องระมัดระวังความเสี่ยงที่มาจากการใช้เลเวอเรจด้วย
แนะนำโปรแกรมออมทอง 2023
ชื่อบริษัท | เป็นสมาชิกสมาคมผู้ค้าทอง | ออมขั้นต่ำ/ ครั้ง | รูปแบบการออม | รับทองจริงเมื่อสะสมครบ | ค่าธรรมเนียมการถอน | ระยะเวลารับทอง |
ฮั่วเซ่งเฮง | ✓ | 1,000 บาท | ตามใจ/รายเดือน | 1 สลึง | 150 บาท/แท่ง | 3 วันทำการ |
ออสสิริส | ✓ | 1,000 บาท | รายเดือนเฉลี่ยซื้อทุกวัน | 1 กรัม | 100-250 บาท/แท่ง | 2 วันทำการ |
YLG | ✓ | 100 บาท | ตามใจ/รายเดือน | 1 กรัม | 150-800 บาท/แท่ง | 3 วันทำการ |
MTS | ✓ | 150 บาท | ตามใจ 24 ช.ม. | 1 กรัม | 50 - 200 บาท/แท่ง | 3 วันทำการ |
GCAP | ✓ | 500 บาท | รายเดือน | 1 กรัม | 150 บาท/แท่ง | 2 วันทำการ |
GLOBLEX | ✓ | 1,500 บาท | รายเดือน | 5 บาท | - | 2 วันทำการ |
HelloGold | ✗ | 10 บาท | รายวัน | 1 กรัม | 2% ของมูลค่า | 5 วันทำการ |
1. โปรแกรมออมทอง ฮั่วเซ่งเฮง
ฮั่วเซ่งเฮงเป็นร้านทองที่มีประวัติเก่าแก่ยาวนาน มีโปรแกรมการออมทองทั้งแบบรายวัน สามารถทำรายการออมตามใจวันไหนที่ทองลง โดยส่งรายการได้ตั้งแต่ 9.30 – 17.30 น. รวมทั้งแบบรายเดือนที่จะตัดเงินผ่านบัญชีอัตโนมัติเดือนละครั้งทุกวันทำการที่ 2 ของเดือน ทำให้ไม่ต้องคอยนั่งทำรายการซื้อขายเองทุกเดือน โดยมีขั้นต่ำของการออมที่ 1,000 บาทต่อครั้ง เช็กข้อมูลธุรกรรมได้ผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งเรียกได้ว่าสะดวกสุด ๆ
ออมขั้นต่ำ: 1,000 บาท
รูปแบบการออม: ออมตามใจ/ ออมรายเดือนทุกต้นเดือน
รับทองจริง: เมื่อออมครบ 1 สลึง
ค่าธรรมเนียมการถอน: 150 บาท/แท่ง
ระยะเวลารับทอง: 3 วันทำการ
ข้อดีและข้อเสีย: เป็นร้านทองที่มีความน่าเชื่อถือสูง มีรูปแบบการออมที่ยืดหยุ่นและเพิ่มความสะดวกด้วยการสั่งซื้ออัตโนมัติรายเดือน แต่มีขั้นต่ำในการออมต่อครั้งสูง
2. โปรแกรมออมทอง ออสสิริส
ออสสิริสเป็นร้านทองเก่าแก่ที่ปรับเปลี่ยนมารุกตลาดการซื้อขายออนไลน์เป็นเจ้าแรก ๆ ทำให้มีระบบให้บริการธุรกรรมออนไลน์ที่ค่อนข้างเป็นมาตรฐานและเชื่อถือได้ มีโปรแกรมออมทองแบบรายเดือน เป็นการตัดเงินอัตโนมัติทุกต้นเดือน แล้วนำมาเฉลี่ยซื้อทองคำทุกวันทำการทำให้มั่นใจได้ว่าต้นทุนการซื้อทองคำจะเป็นค่าเฉลี่ยของราคาทองคำในเดือนนั้นจริง ๆ โดยมีขั้นต่ำของการออมที่ 1,000 บาท และสามารถถอนออกมาเป็นทองแท่งได้เมื่อสะสมครบ 1 กรัม โดยใช้เวลาเพียง 2 วันทำการ ด้วยค่าธรรมเนียม 100-250 บาท/แท่ง เมื่อถอนแบบต่ำกว่า 5 บาท
ออมขั้นต่ำ: 1,000 บาท
รูปแบบการออม: ออมรายเดือน หักเงินทุกต้นเดือนแล้วเฉลี่ยซื้อทุกวันทำการ
รับทองจริง: เมื่อครบ 1 กรัม
ค่าธรรมเนียมการถอน: 100-250 บาท/แท่ง
ระยะเวลารับทอง: 2 วันทำการ
ข้อดีและข้อเสีย: เป็นร้านที่มีความน่าเชื่อถือสูง มีระบบเฉลี่ยเงินลงทุนกระจายซื้อเป็นรายวันทำให้ได้ราคาเฉลี่ยของเดือนจริง ๆ ใช้เวลารับทองสั้นเพียง 2 วันทำการ แต่ก็เป็นอีกหนึ่งเจ้าที่มีขั้นต่ำการออมสูง
3. โปรแกรมออมทอง YLG
YLG เป็นร้านเพชรทองขึ้นชื่อของไทย มีโปรแกรม YLG Goldsaving ที่ช่วยให้ซื้อทองออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงบริการออมทองแบบรายเดือนที่จะทำรายการและตัดบัญชีอัตโนมัติทุกเดือน สามารถเลือกวันและจำนวนเงินที่สั่งทำรายการได้ โดยมีขั้นต่ำของการออมยืดหยุ่นเพียง 100 บาท สำหรับการออมรายวัน และ 1,000 บาท สำหรับการออมรายเดือน ถอนได้เมื่อออมทองครบ 1 กรัม โดยใช้เวลา 3 วันทำการ โดยสามารถเปิดบัญชีออนไลน์เพื่อเริ่มการออมได้ทันที
ออมขั้นต่ำ: 100 บาท สำหรับรายวัน/ 1,000 บาท สำหรับรายเดือน
รูปแบบการออม: ออมตามใจ/ ออมรายเดือน
รับทองจริง: 1 กรัม
ค่าธรรมเนียมการถอน: 150-800 บาท/ แท่ง
ระยะเวลารับทอง: 3 วันทำการ
ข้อดีและข้อเสีย: เปิดบัญชีสะดวก ร้านมีความน่าเชื่อถือสูง โปรแกรมออมมีความยืดหยุ่นทั้งแบบรายวันที่มีขั้นต่ำน้อย และรายเดือนที่เป็นการออมแบบอัตโนมัติ แต่มีค่าธรรมเนียมการถอนสูงกว่าร้านทองเจ้าอื่นค่อนข้างมาก
4. โปรแกรมออมทอง MTS
แม่ทองสุกเป็นบริษัทที่ให้บริการซื้อขายทองคำแบบครบวงจร ให้บริการออมทองผ่านเครือข่ายบล็อกเชนของตัวเอง ลูกค้าสามารถทำรายการออมและซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีขั้นต่ำการออม 1,000 บาทต่อครั้ง การออมทองกับแม่ทองสุกมีจุดเด่นที่เป็นการทำรายการบนบล็อกเชน ทำให้สามารถโอนทองคำให้คนอื่นที่อยู่ในระบบเดียวกันได้ และสามารถรับทองคำจริงได้เมื่อออมทองครบ 1 กรับ โดยมีค่าใช้จ่ายในการแลกทองที่ 50 – 200 บาท/แท่ง แต่หากรับที่หน้าร้าน น้ำหนัก 1 บาท แท่งที่ 4 เป็นต้นไปฟรีค่าแลกทอง
ออมขั้นต่ำ: 1,000 บาท
รูปแบบการออม: ออมตามใจตลอด 24 ชั่วโมง
รับทองจริง: เมื่อครบ 1 กรัม
ค่าธรรมเนียมการถอน: 50 - 200 บาท/ แท่ง
ระยะเวลารับทอง: 3 วันทำการ
ข้อดีและข้อเสีย: ร้านมีความน่าเชื่อถือ มีบริการออมทองที่ยืดหยุ่นทำรายการได้ตลอด 24 ชั่วโมงบนเครือข่ายบล็อกเชน แต่ไม่มีบริการตัดเงินออมทองแบบอัตโนมัติ ทำให้ลูกค้าต้องคอยเฝ้าราคาเพื่อกดซื้อแบบแมนนวล
5. โปรแกรมออมทอง GCAP
GCAP หรือที่คุ้นเคยกันในชื่อห้างทองโกลด์สยามเป็นร้านทองอีกแห่งที่มีความน่าเชื่อถือสูง มีโปรแกรมออมทองแบบการทยอยซื้อทองคำแท่ง 96.50% สะสมตามปริมาณที่ลูกค้าต้องการเป็นรายเดือน โดยมีขั้นต่ำของการลงทุนที่ 500 บาท และจะมีการตัดเงินทุกวันทำการที่ 1 ของเดือน เพื่อทำรายการซื้อทองในวันทำการที่ 2 ของเดือน และเมื่อออมสะสมครบ 1 กรัมสามารถขอรับเป็นทองคำแท่งได้ทั้งหน้าร้านหรือจัดส่งทางไปรษณีย์ โดยหากถอนไม่ถึง 5 บาทค่าธรรมเนียม 150 บาท/แท่ง ใช้เวลารับเพียง 2 วันทำการ
ออมขั้นต่ำ: 500 บาท
รูปแบบการออม: ออมรายเดือน ทำรายการอัตโนมัติทุกวันที่ 2 ของเดือน
รับทองจริง: เมื่อครบ 1 กรัม
ค่าธรรมเนียมการถอน: ไม่ถึง 5 บาท 150 บาท/แท่ง
ระยะเวลารับทอง: 2 วันทำการ
ข้อดีและข้อเสีย: GCAP มีมีขั้นต่ำการออมทองเพียง 500 บาท แต่โปรแกรมการออมไม่ค่อยยืดหยุ่นโดยเลือกทำรายการได้เฉพาะวันทำการที่ 2 ของเดือนเท่านั้น
6. โปรแกรมออมทอง GLOBEX
โกลเบล็ก เป็นโบรกเกอร์ซื้อขายทองคำที่ให้บริการออมทองคำกับนักลงทุนทั่วไปด้วยเช่นกัน โดยโปรแกรมการออมที่มีลักษณะเป็นสัญญา สัญญาละ 12 เดือน โดยใช้เงินลงทุนขั้นต่ำ 1,500 บาท/ครั้ง โดยจะมีการตัดเงินทุกวันทำการแรกของเดือน และเข้าซื้อทองคำในวันทำการที่ 2 ของเดือนตามจำนวนเงินที่ลูกค้ากำหนดไว้ หลังจากนั้นจะสามารถขอรับทองคำแท่งได้เมื่อสะสมครบ 5 บาท ใน 2 วันทำการ
ออมขั้นต่ำ: 1,500 บาท
รูปแบบการออม: ออมรายเดือน ขั้นต่ำ 12 เดือน
รับทองจริง: เมื่อครบ 5 บาท
ค่าธรรมเนียมการถอน: -
ระยะเวลารับทอง: 2 วันทำการ
ข้อดีและข้อเสีย: การออมทองกับโกลเบล็กมีข้อดีที่ไม่มีค่าธรรมเนียมการถอนหรือค่ากำเน็จรับทองคำ แต่ก็มีข้อจำกัดที่การขอรับทองคำแต่ละครั้งมีขั้นต่ำถึง 5 บาท มีการกำหนดขั้นต่ำของการออมที่สูงกว่าเจ้าอื่น ๆ และต้องออมขั้นต่ำ 12 เดือน ซึ่งเป็นการออมทองคำที่มีความยืดหยุ่นน้อย
7. โปรแกรมออมทอง HelloGold
HelloGold เป็นแพลตฟอร์มให้บริการซื้อขายทองคำออนไลน์ที่ไม่มีหน้าร้านให้วอล์คอิน นักลงทุนที่สนใจสามารถติดต่อร้านได้ผ่านเว็บไซต์และช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ และสามารถสั่งทำรายการออมทองได้ทั้งบนเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น โดยคิดค่าธรรมเนียมการซื้อขาย 2% ของมูลค่าการซื้อขาย มีจุดเด่นที่สามารถทำรายการซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง และค่าธรรมเนียมต่ำ
ออมขั้นต่ำ: 10 บาท
รูปแบบการออม: ออมรายวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
รับทองจริง: 1 กรัม
ค่าธรรมเนียมการถอน: หักจากทองคำตามน้ำหนัก
ระยะเวลารับทอง: 5 วันทำการ
ข้อดีและข้อเสีย: มีความยืดหยุ่นในการออม มีขั้นต่ำในการออมน้อย แต่มีสำนักงานใหญ่ในต่างประเทศและไม่ได้เป็นสมาชิกสมาคมผู้ค้าทองคำไทย ใช้เวลารับทองนานกว่าร้านอื่น
และเหล่านี้ก็คือโปรแกรมออมทอง 2023 ที่เรานำมาเสนอสำหรับเป็นไอเดียในการออมทอง ซึ่งใครที่เคยลังเลอยู่ว่าจะออมทองดีไหม จะออมทองอย่างไรให้กำไรแบบยั่งยืน ก็น่าจะพอได้แนวทางในการออมกันไปบ้างแล้ว ที่เหลือก็เพียงแค่ลงมือและมีวินัยในการออม ความสำเร็จของการลงทุนครั้งนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน